นมแม่ดีที่สุด
เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้คุณเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะเราเชื่อว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทารก ทั้งยังให้ประโยชน์กับทารกในหลายด้าน การเตรียมตัวช่วงก่อนและระหว่างการให้นมทารกนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง คุณควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในสัดส่วนที่สมดุล
เมื่อคุณตัดสินใจที่จะไม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หรือเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ร่วมกับการใช้นมสูตรสำหรับทารก อาจลดประสิทธิภาพในการสร้างน้ำนมของคุณเองและทำให้การกลับมาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อีกครั้งทำได้ยากขึ้น ดังนั้นก่อนเริ่มใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรคำนึงถึงผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคมร่วมด้วย หากจำเป็นต้องใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรปฏิบัติตามข้อแนะนำในการเตรียม การใช้ และการเก็บรักษา อย่างระมัดระวังเพื่อสุขภาพที่ดีของทารก
เพื่อช่วยในการตัดสินใจที่ดีที่สุดเกี่ยวกับวิธีให้อาหารทารก แนะนำปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทุกครั้ง
เพราะรากฐานสุขภาพที่ดีของลูกในระยะยาว คุณแม่สามารถกำหนดและสร้างให้ลูกได้ตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิต จากข้อมูลพบว่า ปัจจัยด้านพันธุกรรมหรือการได้รับยีนจากพ่อแม่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของลูกได้ เช่น พ่อหรือแม่ที่เป็นภูมิแพ้ก็อาจส่งต่อโรคภูมิแพ้มายังลูกได้ 20-40% ในขณะที่ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การผ่าคลอดอาจส่งผลต่อภูมิต้านทานได้ถึง 30% หรือการได้รับยาปฏิชีวนะก็ล้วนมีผลต่อภูมิต้านทาน
การผ่าคลอดส่งผลต่อภูมิต้านทานตั้งต้นของลูกน้อยแรกเกิด และพื้นฐานของสุขภาพที่ดีของลูกในอนาคต เนื่องจาก เด็กที่คลอดธรรมชาติ จะได้รับจุลินทรีย์โพรไบโอติกผ่านทางช่องคลอดของคุณแม่ ต่างจากลูกน้อยที่ผ่าคลอดที่ไม่ได้รับ จุลินทรีย์โพรไบโอติก ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่สำคัญต่อภูมิตั้งต้นหรือรากฐานของการพัฒนาระบบภูมิต้านทานที่ดีไปตลอดชีวิต จึงอาจทำให้ลูกที่ผ่าคลอดมีระบบภูมิต้านทานที่พัฒนาช้ากว่าเด็กคลอดธรรมชาติ และทำให้เด็กผ่าคลอดมีโอกาสเจ็บป่วย มากกว่าเด็กที่คลอดธรรมชาติ โดยจากงานวิจัยเด็ก 1.9 ล้านคน พบว่าเด็กผ่าคลอดมีความเสี่ยงต่างๆ เมื่อเทียบกับเด็ก ที่คลอดธรรมชาติ นั่นคือ
การผ่าคลอดส่งผลต่อภูมิต้านทานตั้งต้นของลูกน้อยแรกเกิด และพื้นฐานของสุขภาพที่ดีของลูกในอนาคต เนื่องจาก เด็กที่คลอดธรรมชาติ จะได้รับจุลินทรีย์โพรไบโอติกผ่านทางช่องคลอดของคุณแม่ ต่างจากลูกน้อยที่ผ่าคลอดที่ไม่ได้รับ จุลินทรีย์โพรไบโอติก ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่สำคัญต่อภูมิตั้งต้นหรือรากฐานของการพัฒนาระบบภูมิต้านทานที่ดีไปตลอดชีวิต จึงอาจทำให้ลูกที่ผ่าคลอดมีระบบภูมิต้านทานที่พัฒนาช้ากว่าเด็กคลอดธรรมชาติ และทำให้เด็กผ่าคลอดมีโอกาสเจ็บป่วย มากกว่าเด็กที่คลอดธรรมชาติ โดยจากงานวิจัยเด็ก 1.9 ล้านคน พบว่าเด็กผ่าคลอดมีความเสี่ยงต่างๆ เมื่อเทียบกับเด็ก ที่คลอดธรรมชาติ นั่นคือ
การผ่าคลอดส่งผลต่อภูมิต้านทานตั้งต้นของลูกน้อยแรกเกิด และพื้นฐานของสุขภาพที่ดีของลูกในอนาคต เนื่องจาก เด็กที่คลอดธรรมชาติ จะได้รับจุลินทรีย์โพรไบโอติกผ่านทางช่องคลอดของคุณแม่ ต่างจากลูกน้อยที่ผ่าคลอดที่ไม่ได้รับ จุลินทรีย์โพรไบโอติก ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่สำคัญต่อภูมิตั้งต้นหรือรากฐานของการพัฒนาระบบภูมิต้านทานที่ดีไปตลอดชีวิต จึงอาจทำให้ลูกที่ผ่าคลอดมีระบบภูมิต้านทานที่พัฒนาช้ากว่าเด็กคลอดธรรมชาติ และทำให้เด็กผ่าคลอดมีโอกาสเจ็บป่วย มากกว่าเด็กที่คลอดธรรมชาติ โดยจากงานวิจัยเด็ก 1.9 ล้านคน พบว่าเด็กผ่าคลอดมีความเสี่ยงต่างๆ เมื่อเทียบกับเด็ก ที่คลอดธรรมชาติ นั่นคือ
การผ่าคลอดส่งผลต่อภูมิต้านทานตั้งต้นของลูกน้อยแรกเกิด และพื้นฐานของสุขภาพที่ดีของลูกในอนาคต เนื่องจาก เด็กที่คลอดธรรมชาติ จะได้รับจุลินทรีย์โพรไบโอติกผ่านทางช่องคลอดของคุณแม่ ต่างจากลูกน้อยที่ผ่าคลอดที่ไม่ได้รับ จุลินทรีย์โพรไบโอติก ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่สำคัญต่อภูมิตั้งต้นหรือรากฐานของการพัฒนาระบบภูมิต้านทานที่ดีไปตลอดชีวิต จึงอาจทำให้ลูกที่ผ่าคลอดมีระบบภูมิต้านทานที่พัฒนาช้ากว่าเด็กคลอดธรรมชาติ และทำให้เด็กผ่าคลอดมีโอกาสเจ็บป่วย มากกว่าเด็กที่คลอดธรรมชาติ โดยจากงานวิจัยเด็ก 1.9 ล้านคน พบว่าเด็กผ่าคลอดมีความเสี่ยงต่างๆ เมื่อเทียบกับเด็ก ที่คลอดธรรมชาติ นั่นคือ
นมแม่จึงเป็นเสมือนวัคซีนที่สำคัญมากต่อการสร้างภูมิต้านทานให้ลูกน้อยที่ผ่าตัดคลอดได้มีพัฒนาการภูมิต้านทานเทียบเท่าเด็กคลอดธรรมชาติ คุณแม่จึงควรให้ลูกน้อยแรกเกิดกินนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน หรือกินนมแม่ให้นานที่สุด
แต่หากคุณแม่มีความจำเป็นไม่สามารถให้นมลูกได้ ควรปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำด้านโภชนาการอย่างเหมาะสม
บริการให้คำปรึกษาในทุกๆเรื่องที่คุณแม่กังวลใจ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล นักโภชนาการและคุณแม่ ที่พร้อมอยู่เคียงข้าง ตลอด 24 ชั่วโมง