นมแม่ดีที่สุด
เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้คุณเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะเราเชื่อว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทารก ทั้งยังให้ประโยชน์กับทารกในหลายด้าน การเตรียมตัวช่วงก่อนและระหว่างการให้นมทารกนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง คุณควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในสัดส่วนที่สมดุล
เมื่อคุณตัดสินใจที่จะไม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หรือเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ร่วมกับการใช้นมสูตรสำหรับทารก อาจลดประสิทธิภาพในการสร้างน้ำนมของคุณเองและทำให้การกลับมาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อีกครั้งทำได้ยากขึ้น ดังนั้นก่อนเริ่มใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรคำนึงถึงผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคมร่วมด้วย หากจำเป็นต้องใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรปฏิบัติตามข้อแนะนำในการเตรียม การใช้ และการเก็บรักษา อย่างระมัดระวังเพื่อสุขภาพที่ดีของทารก
เพื่อช่วยในการตัดสินใจที่ดีที่สุดเกี่ยวกับวิธีให้อาหารทารก แนะนำปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทุกครั้ง
เลือกอ่านตามหัวข้อที่ต้องการ
อาการคนท้อง 18 สัปดาห์เป็นอย่างไร?
สิ่งที่ควรทำเมื่อท้อง 18 สัปดาห์
สิ่งที่ควรระวังในช่วงท้อง 18 สัปดาห์
คุณแม่อาจรู้สึกวิงเวียนในบางครั้ง นั่นเป็นเพราะหัวใจของคุณทำงานหนักขึ้น 40 - 50 เท่าเมื่อเทียบกับตอนก่อนตั้งครรภ์ และเมื่อมดลูกมีขนาดใหญ่ขึ้น ก็จะเริ่มกดเส้นเลือดบางส่วน จึงทำให้คุณรู้สึกหน้ามืดบ้างเป็นบางครั้ง
สิ่งสำคัญคือคุณแม่ต้องพักผ่อนบ่อยๆ และควรระมัดระวังในการลุกนั่ง พยายามอย่าลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และควรรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ เพราะเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดลดลงอย่างรวดเร็ว อาจทำให้คุณวิงเวียนได้ คุณควรพยายามทานอาหารที่ย่อยได้ช้า เช่น ข้าวโอ๊ตหรือผลไม้และผัก แทนที่จะทานขนมหวาน
เมื่อเข้าสู่ท้อง18 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ ถือว่าเป็นช่วงกลางของ
ไตรมาสที่สอง ซึ่งร่างกายของคุณแม่จะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่าง
ชัดเจนมากขึ้น ทั้งในด้านรูปร่างและอารมณ์ โดยอาการทั่วไปที่มัก
พบในสัปดาห์นี้ ได้แก่
- มดลูกจะมีขนาดประมาณผลเมลอน และอยู่สูงเหนือกระดูกหัวหน่าว ทำให้หน้า
ท้องเริ่มนูนออกอย่างเห็นได้ชัด
- คุณแม่บางคนอาจเริ่มรู้สึกว่ามีการเคลื่อนไหวเบา ๆ บริเวณท้อง
ซึ่งเป็นสัญญาณว่าทารกเริ่มขยับตัวได้แล้ว แต่อาจจะยังไม่มาก
- รู้สึกเหนื่อยง่าย หรือหายใจลำบากเล็กน้อย เนื่องจากปริมาณเลือด
ในร่างกายเพิ่มขึ้นเพื่อเลี้ยงลูกในครรภ์ อาจทำให้คุณแม่รู้สึกเหนื่อยง่าย
หัวใจเต้นแรง หรือเวียนศีรษะเป็นบางครั้ง
- รู้สึกปวดหน่วงหรือคัดตึงบริเวณท้องน้อย เนื่องจากมดลูกและเอ็นที่
รองรับมีการขยายตัวมากขึ้น
- ในคุณแม่บางคนอาจสังเกตเห็นผิวมีรอยดำ เช่น เส้นกลางหน้าท้อง
หรือฝ้าบนใบหน้า ซึ่งเกิดจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
-ไปฝากครรภ์และพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยตรวจติดตามพัฒนาการ
ของลูกในครรภ์และตรวจความสมบูรณ์ของร่างกายคุณแม่ เช่น ตรวจฟังเสียง
หัวใจทารก วัดความดันโลหิต ตรวจปัสสาวะ
- หากต้องการทราบเพศของลูก สัปดาห์นี้ถือว่าเริ่มเห็นได้ชัดจากอัลตราซาวด์
แล้ว โดยสามารถแจ้งแพทย์ว่าต้องการทราบเพศได้
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ หลากหลายครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะแคลเซียมและ
ธาตุเหล็ก
- ออกกำลังกายเบา ๆ อย่างสม่ำเสมอ เช่น เดินเล่น โยคะคนท้อง หรือว่ายน้ำ
เพื่อช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและลดอาการปวดเมื่อย
- หากมีอาการเหนื่อยล้า ควรนอนหลับให้เพียงพอวันละ 7-9 ชั่วโมง
และหลีกเลี่ยงความเครียดที่จะต้องเจอ
- หากมีอาการปวดหน่วงท้องมากหรือมีเลือดออกทางช่องคลอด ควรรีบพบ
แพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนที่จะตามมา
- หลีกเลี่ยงการนั่งหรือยืนนาน ๆ เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวก
และอาจเกิดอาการบวมหรือเส้นเลือดขอดได้
- ระวังอุบัติเหตุและการลื่นล้ม ด้วยร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้คุณแม่
อาจเสียการทรงตัวได้ง่าย
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารดิบหรือสุก ๆ ดิบ ๆ เพราะอาจมีพยาธิหรือแบคทีเรีย
ที่เป็นอันตรายต่อทารก
- ไม่ควรใช้ยาหรือสมุนไพรใด ๆ โดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพราะบางชนิดอาจเป็น
อันตรายต่อทารกในครรภ์
อ้างอิงจาก
บริการให้คำปรึกษาในทุกๆเรื่องที่คุณแม่กังวลใจ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล นักโภชนาการและคุณแม่ ที่พร้อมอยู่เคียงข้าง ตลอด 24 ชั่วโมง