อาการบวมระหว่างตั้งครรภ์

พบกับสาเหตุและวิธีเบาเทาอาการบวมขณะตั้งครรภ์ อาการบวม เป็นปฏิกิริยาธรรมชาติเนื่องจากของเหลวในร่างกายเพิ่มขึ้น คุณแม่จะรู้สึกบวมที่บริเวณข้อเท้าและเท้าหากต้องยืนนานๆ และบวมที่นิ้วหรือหน้าด้วย

อาการบวมมักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในตอนกลางวันและบวมเพิ่มมากขึ้นในช่วงเย็น เป็นเพราะกิจกรรมที่ทำในระหว่างวันหรืออากาศที่ร้อนอบอ้าว

เลือกอ่านตามหัวข้อที่ต้องการ

เท้าบวมเกิดจากอะไรในคนท้อง?

เมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์?

วิธีลดอาการบวมขณะตั้งครรภ์

คำถามที่พบบ่อย

เท้าบวมเกิดจากอะไรในคนท้อง?

อาการบวมของเท้า ขา หรือมือในหญิงตั้งครรภ์ สาเหตุสำคัญนั้นมาจาก

ขนาดของมดลูกที่ขยายตัวใหญ่ขึ้นไปกดทับหลอดเลือดทำให้การไหลเวียนกลับ

ของเลือดช้าลง โดยเฉพาะบริเวณขาและเท้า รวมทั้งขณะตั้งครรภ์

จะมีฮอร์โมนเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เนื้อเยื่อต่างๆ มีการดูดซึมน้ำและกักเก็บน้ำไว้มากกว่าปกติด้วย

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นที่ทำให้เกิดอาการบวม เช่น กิจกรรมระหว่างวันที่ต้องยืนหรือนั่งท่าเดิมนาน ๆ

หรือสภาพอากาศที่ร้อนจัด ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการบวมมากขึ้นได้เช่นกัน

เมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์?

ควรรีบไปพบแพทย์หากมีอาการบวมที่ผิดปกติ ดังนี้

-บวมมากผิดปกติภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว

-บวมไม่เท่ากันระหว่างสองข้าง เช่น ขาซ้าย บวมมากกว่าขาขวา

-มีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดหัวรุนแรง สายตาพร่ามัว ปวดจุกแน่นลิ้นปี่

ความดันโลหิตสูง เป็นต้น

-รู้สึกเจ็บหรือแดงร้อนบริเวณที่บวม

อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อน เช่น ครรภ์เป็นพิษ (Preeclampsia) ได้

ดังนั้น ควรรีบปรึกษาแพทย์รับการดูแลที่ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อความปลอดภัยของทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ค่ะ

วิธีลดอาการบวมขณะตั้งครรภ์

การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็ม เชื่อกันว่ากระเทียม หัวหอมสดและแอปเปิ้ล ช่วยได้ดีมาก
ออกกำลังกายเป็นประจำ โดยเฉพาะการเดิน
หลีกเลี่ยงการยืนเป็นระยะเวลานานๆ
ดื่มน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว น้ำช่วยให้เลือดไหลเวียนสะดวก ช่วยลดอาการบวมได้ค่ะ
นอนยกขาให้สูง ช่วงกลางคืนเวลานอนควรเอาหมอนสัก 1-2 ใบมาหนุนที่เท้า เพื่อยกเท้าให้ระดับเท้าสูงกว่าระดับหัวใจ ก็จะช่วยให้เลือดที่คั่งอยู่ไหลกลับเข้าหัวใจได้มากขึ้น
ควรนอนตะแคงซ้ายเพื่อไม่ให้น้ำหนักไปกดทับเส้นเลือดดำใหญ่ ซึ่งอยู่ทางด้านขวาของร่างกาย
พยายามควบคุมน้ำหนักของคุณแม่เอง ไม่ให้อยู่ในระดับที่มากเกินกำหนด เพราะน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจำนวนไม่น้อยนั้นมาจากน้ำ ของเหลวจำนวนมากพวกนี้มักจะไปสะสมอยู่ที่เท้า การควบคุมน้ำหนักทำให้การหมุนเวียนเลือดในขาดีขึ้นค่ะ
การนวดแบบผ่อนคลาย การแช่เท้าในน้ำอุ่น ๆ ทำให้เลือดไหลเวียนดี ลดโอกาสที่เท้าบวมได้ค่ะ
ไม่ใส่รองเท้าให้คับเกินไป เมื่อเท้าบวมขึ้นก็ควรจะเปลี่ยนขนาดไปตามเท้าที่ใหญ่ขึ้น

หากมีอาการบวม ร่วมกับอาการผิดปกติอื่น ๆ เช่น ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว บวมที่บริเวณใบหน้า เปลือกตา จุกแน่นหน้าอก ความดันโลหิตสูง ควรพบแพทย์ เพราะอาจจะเป็นอาการของครรภ์เป็นพิษได้