นมแม่ดีที่สุด

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้คุณเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะเราเชื่อว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทารก ทั้งยังให้ประโยชน์กับทารกในหลายด้าน การเตรียมตัวช่วงก่อนและระหว่างการให้นมทารกนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง คุณควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในสัดส่วนที่สมดุล

เมื่อคุณตัดสินใจที่จะไม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หรือเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ร่วมกับการใช้นมสูตรสำหรับทารก อาจลดประสิทธิภาพในการสร้างน้ำนมของคุณเองและทำให้การกลับมาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อีกครั้งทำได้ยากขึ้น ดังนั้นก่อนเริ่มใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรคำนึงถึงผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคมร่วมด้วย หากจำเป็นต้องใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรปฏิบัติตามข้อแนะนำในการเตรียม การใช้ และการเก็บรักษา อย่างระมัดระวังเพื่อสุขภาพที่ดีของทารก

เพื่อช่วยในการตัดสินใจที่ดีที่สุดเกี่ยวกับวิธีให้อาหารทารก แนะนำปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทุกครั้ง

ข้อดีข้อเสียของการผ่าคลอด

ในปัจจุบันทางการแพทย์มีการวินิจฉัยหาความผิดปกติของทารกในครรภ์ได้อย่างแม่นยำมากขึ้นจากการตรวจเช็กสุขภาพครรภ์ตามแพทย์นัดเป็นระยะ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างคลอด

ซึ่งถ้าแพทย์มีความเห็นว่าการคลอดแบบธรรมชาติอาจไม่ปลอดภัยต่อทั้งแม่และลูกน้อย เนื่องจากมีข้อบ่งชี้ทางมารดาและทารก ยกตัวอย่างเช่น คุณแม่มีภาวะความดันโลหิตสูงชนิดรุนแรงเป็นโรคติดเชื้อที่อวัยวะเพศ โรคเริม โรคหูดหงอนไก่ ตั้งครรภ์แฝด มีภาวะรกเกาะต่ำ มีภาวะสายสะดือย้อย ลูกอยู่ในท่าก้น หรือ ลูกตัวใหญ่เกินกว่าที่จะคลอดปกติ แพทย์จะแนะนำให้ใช้วิธีการผ่าคลอดลูก เพื่อนำทารกออกมาได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น

จะเห็นได้ว่าคุณแม่มีความมั่นใจในตัวแพทย์กับเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยมากขึ้น และการเลือกวิธีการคลอดก็เป็นสิทธิโดยชอบธรรมของผู้ที่ตั้งครรภ์ ดังนั้นการผ่าคลอดลูกตามความต้องการของมารดาจึงเพิ่มมากขึ้นด้วย เป็นการผ่าคลอดโดยไม่มีข้อบ่งชี้

ซึ่งมีหลายเหตุผลที่มารดาหรือครอบครัวเลือกที่จะผ่าคลอด เช่น ความสะดวกในการกำหนดวันคลอดตามฤกษ์ ที่ต้องการ กลัวความเจ็บและภาวะแทรกซ้อนจากการคลอดทางช่องคลอด กลัวช่องคลอดหย่อน กลัวทารกขาดออกซิเจน เป็นต้น ดังนั้นก่อนติดสินในการผ่าคลอดลูกเราควรทำความเข้าใจหรือเรียนรู้เกี่ยวกับการผ่าคลอดกันให้มากขึ้นเพื่อให้ลูกน้อยได้รับสิ่งที่ดีที่สุดค่ะ

สิ่งที่ควรรู้ก่อนผ่าคลอด

ข้อดีการผ่าคลอด

  • เหมาะสำหรับคุณแม่ที่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์
  • กำหนดเวลาคลอดที่แน่นอนได้
  • สะดวก มีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้า
  • ไม่ต้องเผชิญกับอาการเจ็บครรภ์คลอด
  • สามารถทำหมันได้ทันที

ข้อเสียการผ่าคลอด

  • ร่างกายฟื้นตัวช้า ไม่สามารถให้นมลูกได้ทันที
  • เสียเลือดมาก เจ็บแผลนาน
  • การผ่าตัดคลอดจะทําได้คุณแม่ต้องได้รับยาระงับความรู้สึกหรือยาสลบ อาจมีภาวะแทรกซ้อนจากการดมยาสลบ เช่น มีความดันโลหิตลดต่ำลงทันทีจากการบล็อคหลัง การสำลักน้ำหรืออาหารเข้าไปในหลอดลมจากการดมยาสลบ 5
  • อาจมีภาวะแทรกซ้อนเมื่อเจ็บครรภ์ครั้งต่อไป เช่น แผลมดลูกปริแตก รกเกาะลึกผิดปกติ เป็นต้น
  • อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด
  • ลูกน้อยมีโอกาสเกิดปัญหาการหายใจ เช่น ภาวะหายใจเร็วขั่วคราว
  • ลูกน้อยไม่ได้รับจุลินทรีย์สุขภาพที่ช่วยเสริมภูมิต้านทานตั้งต้นผ่านช่องคลอด อาจเสี่ยงต่อการเป็นภูมิแพ้ หรือป่วยง่าย 4
  • ค่าใช้จ่ายสูง

3 ขั้นตอนเตรียมตัวก่อนผ่าคลอด

เมื่อตัดสินใจผ่าคลอดหรือแพทย์ให้ความเห็นว่าควรผ่าคลอด แพทย์จะกำหนดวันไว้ล่วงหน้า เพื่อให้คุณแม่ได้เตรียมตัว ดังนี้

  1. แนะนำให้งดน้ำงดอาหารเป็นเวลาอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนทำการผ่าคลอด
  2. ตรวจเลือด เพื่อประเมินภาวะสุขภาพก่อนเข้ารับการผ่าคลอด เพื่อวางแผนการรักษาต่อไป
  3. ก่อนเข้ารับการผ่าคลอดจะได้รับการทำความสะอาด โกนขนบริเวณหน้าท้องหรือหัวหน่าว สวนอุจจาระ ใส่สายสวนปัสสาวะและค้างสายสวนปัสสาวะไว้จนกว่าจะผ่าคลอดเสร็จ

การดูแลขณะผ่าคลอด

แพทย์วิสัญญี จะให้ยาระงับความรู้สึก (ยาชาหรือยาสลบ) เพื่อให้คุณแม่ไม่รู้สึกเจ็บปวดขณะผ่าคลอด และให้ยาแก้ปวดเพื่อลดความเจ็บปวดหลังจากหมดฤทธิ์ยาชาหรือยาสลบ

โดยคุณแม่จะถูกเจาะเส้นเลือดเพื่อให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ และสำหรับให้ยาต่างๆ ในการดมยาสลบ หรือการฉีดยาชาเฉพาะที่ หรือบล็อกหลัง เพื่อให้คุณแม่มีอาการชาไม่รู้สึกเจ็บตั้งแต่ช่วงเอวลงไปถึงขาทั้งสองข้างในขณะผ่าคลอด ทั้งนี้แพทย์จะเป็นผู้ให้คำแนะนำในการเลือกใช้วิธีระงับความเจ็บปวดโดยประเมินจากสุขภาพของมารดาและทารกในครรภ์เป็นหลัก

หลังจากคุณแม่ถูกระงับความรู้สึกแล้ว แพทย์จะทำความสะอาดหน้าท้องและบริเวณใกล้เคียงด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ปูผ้าปราศจากเชื้อ และใช้มีดผ่าตัดที่ผนังหน้าท้อง โดยผ่าลงไปในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ชั้นกล้ามเนื้อ ชั้นเยื่อบุช่องท้อง แล้วผ่าเปิดมดลูก

จากนั้นจึงนำลูกน้อย และรกที่อยู่ในมดลูกออก หลังจากลูกน้อยคลอดแล้ว แพทย์จะเย็บปิดแผลที่ผ่าตัดในแต่ละชั้น โดยเย็บซ่อมแซมแผลที่มดลูก จากนั้นจึงเย็บปิดชั้นเยื่อบุช่องท้อง ชั้นไขมัน และเย็บปิดแผลที่ชั้นผิวหนังหน้าท้องตามลำดับ รอยแผลผ่าคลอดส่วนใหญ่เป็นแนวบิกินี่ มีขนาดยาวประมาณ 10 เซนติเมตร 3

การดูแลหลังผ่าคลอด

ขณะอยู่ที่โรงพยาบาล ภายหลังการผ่าคลอดเสร็จสิ้น คุณแม่จะได้รับการสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดภายในห้องผ่าตัดเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง แพทย์จะทำการถอดสายสวนปัสสาวะภายหลังการผ่าคลอดอย่างน้อย 12 ชั่วโมง หลังถอดสาย ควรดื่มน้ำมากๆและปัสสาวะบ่อยๆ เพื่อลดการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ ควรมีการขยับร่างกายให้เร็วที่สุด เท่าที่จะทำได้ภายในวันแรกหลังผ่าคลอด เช่น ลุกนั่ง ยืน และเดินภายในห้องเพื่อให้ลำไส้ได้ขยับป้องกันอาการท้องอืดและลดการเกิดพังผืดในช่องท้อง 2 คุณแม่ยังจำเป็นต้องงดอาหารจนกระทั่งลำไส้ทำงานได้ตามปกติ สังเกตได้จากการผายลม เมื่อผายลม แพทย์จะเริ่มให้จิบน้ำ ต่อด้วยอาหารเหลว อาหารอ่อนและอาหารปกติ ตามลำดับ ส่วนใหญ่จะต้องอยู่โรงพยาบาลอย่างน้อย 3 วัน เพื่อติดตามอาการหลังจากการผ่าคลอด แม่หลายคนต้องใช้ยาแก้ปวดผ่านทางสายน้ำเกลือและเฝ้าระวังการติดเชื้อของแผลผ่าตัด หากสบายดีทั้งมารดาและทารกก็สามารถกลับไปพักต่อที่บ้านได้

ดูแลผ่าคลอดหลังกลับบ้าน

-หลีกเลี่ยงยกของหนักด้วยท่าย่อตัว หรือยกของที่มีน้ำหนักมากกว่าน้ำหนักของทารก ขึ้นลงบันไดบ่อยๆ เป็นต้น เพราะจะทำให้แผลผ่าตัดแยกและกระบังลมหย่อนได้ 1 -ใช้หมอนรองบริเวณหน้าท้องขณะให้นมบุตร หรือใช้ผ้าพันบริเวณหน้าท้อง -ใช้ยาเท่าที่จำเป็น โดยใช้ตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น -ในช่วง 6 สัปดาห์แรกหลังคลอดควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ จนกว่าแพทย์จะอนุญาต -หลีกเลี่ยงการขับรถในช่วง 6 สัปดาห์แรกหลังคลอด เนื่องจากการคาดเข็มขัดนิรภัยจะอยู่ตรงแนวแผลผ่าคลอดอาจเกิดอาการบาดเจ็บที่แผลซ้ำได้ -แผลผ่าคลอดที่หน้าท้อง แพทย์จะปิดแผลด้วยวัสดุกันน้ำ ควรระมัดระวังไม่ให้แผลเปียกน้ำ โดยแผลภายนอกจะติดดีภายใน 2 สัปดาห์เมื่อมาตรวจหลังคลอด แพทย์จะแกะวัสดุปิดแผลออกและสามารถโดนน้ำได้1 -ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเพิ่มอาหาร ประเภทโปรตีน ได้แก่ เนื้อสัตว์ทุกชนิด ไข่ ถั่ว งา เต้าหู้ นม เป็นต้น รับประทานอาหารที่เพิ่มธาตุเหล็ก เช่น ตับ ไข่แดง หมูเนื้อแดง รวมไปถึงอาหารประเภทผักผลไม้ และอาหารที่ต้องงด คือ อาหารสุกๆดิบๆ อาหารประเภทหมักดอง อาหารรสจัด ชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1

อาการผิดปกติที่ควรพบแพทย์

  • มีอาการแสดงของการติดเชื้อ เช่น มีไข้สูงมากกว่า 38 องศาเซลเซียส ปวดท้องอย่างรุนแรง มีอาการบวมแดงของแผล หรือมีของเหลวไหลออกมาจากแผลผ่าคลอด
  • มีของเหลวกลิ่นเหม็นผิดปกติหรือมีสีที่แดงเข้มขึ้นหลังจากที่เคยเหลืองจางลงแล้ว ออกมาทางช่องคลอด
  • รู้สึกเจ็บขณะปัสสาวะทุกครั้ง
  • มีเลือดออกจนเต็มผ้าอนามัยภายใน 1 ชั่วโมงหรือมีเลือดออกต่อเนื่องกันมากกว่า 8 สัปดาห์หลังจากผ่าคลอด 6

ถึงแม้การผ่าคลอดจะปลอดภัย มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น และสามารถแก้ไขช่วยให้เด็กรอดปลอดภัยจากภาวะอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ แต่ก็อย่าลืมว่าการผ่าคลอดไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดกับคุณแม่ทุกคนเสมอไป ยังต้องมีรายละเอียดและข้อจำกัดในการตัดสินใจอีกมากมาย และในบางครั้งคุณแม่ก็ไม่สามารถที่จะเลือกวิธีการคลอดเองได้ค่ะ

Reference

  1. https://bit.ly/2JauHBs
  2. https://bit.ly/30aPB9d
  3. https://bit.ly/2vMOfTM
  4. https://bit.ly/2VrKP8y
  5. https://bit.ly/2VsSbbQ
  6. https://bit.ly/2JbcNij

หนึ่งเคล็ดลับสุดท้าย

จำไว้ว่าการเตรียมอาหารที่ปลอดภัยนั้นสำคัญมาก ดังนั้นโปรดตรวจสอบว่าอาหารสำเร็จรูปหรืออาหารที่อุ่นขึ้นใด ๆ มีความร้อนตลอดเวลาก่อนที่คุณจะรับประทาน


คำนวณอายุครรภ์

กรุณาระบุวันครบกำหนดคลอด

กรุณาระบุไม่เกิน 40 สัปดาห์
ไม่ทราบวันครบกำหนดคลอด

คำนวณวันครบกำหนดคลอด

กรุณาระบุวันแรกที่ประจำเดือนมาครั้งสุดท้าย

กรุณาระบุไม่เกิน 40 สัปดาห์

รอบประจำเดือนของคุณอยู่ในช่วงกี่วัน

อายุครรภ์สัปดาห์อื่น

วันครบกำหนดคลอดคือ

Due Date Result Label

8 april 2018

Week Result Label

อายุครรภ์สัปดาห์อื่น

อายุครรภ์ของคุณแม่คือ

สมัครสมาชิก

อายุครรภ์สัปดาห์อื่น

เพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งครรภ์

img
กรุณากรอกชื่อ กรุณากรอกตัวอักษร 5-40 ตัว รวมช่องว่าง
กรุณากรอกเบอร์โทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ (ไม่ต้องมีเลข 0 ข้างหน้า)
กรุณากรอกอีเมล์ อีเมลไม่ถูกต้อง

ระบบของเรารองรับบัญชีอีเมลเฉพาะจากโดเมนของ gmail, yahoo, hotmail, live, msn, icloud, qq, 163 และ outlook เท่านั้น​

กรุณากรอกวันกำหนดคลอด ข้อมูลไม่ถูกต้อง

กรุณากรอกชื่อ กรุณากรอกตัวอักษร 5-40 ตัว รวมช่องว่าง
This field is mandatory
กรุณากรอกข้อมูลวันเดือนปีเกิดลูก ข้อมูลไม่ถูกต้อง

ข้อตกลงและเงื่อนไข

* ข้อมูลจำเป็น

หากต้องการแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลสมาชิก หรือยกเลิก กรุณาติดต่อ 0 2740 3333

* ข้อมูลจำเป็น

ข้าพเจ้ายินยอมที่จะรับข้อมูลจากไฮแฟมิลี่คลับผ่านช่องทางไปรษณีย์ หรืออีเมล หรือ SMS หรือโทรศัพท์ ข้อมูลที่ถูกจัดเก็บสามารถนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริการลูกค้า

We're sorry. There were technical problems with the form. Please contact our customer service.

กรุณากรอกบ้านเลขที่ รูปแบบเลขที่บ้านไม่ถูกต้อง
กรุณากรอกบ้านเลขที่ รูปแบบเลขที่บ้านไม่ถูกต้อง
ข้อมูลจำเป็น ข้อมูลไม่ถูกต้อง
ข้อมูลไม่ถูกต้อง
ข้อมูลไม่ถูกต้อง
ข้อมูลไม่ถูกต้อง
* กรุณากรอกจังหวัด
* กรุณากรอกอำเภอ
* กรุณากรอกตำบล
กรุณากรอกรหัสไปรษณีย์

We're sorry. There were technical problems with the form. Please contact our customer service.

carelinepic_resized2

ไฮ-แฟมิลี่ แคร์ไลน์

บริการให้คำปรึกษาในทุกๆเรื่องที่คุณแม่กังวลใจ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล นักโภชนาการและคุณแม่ ที่พร้อมอยู่เคียงข้าง ตลอด 24 ชั่วโมง

x