นมแม่ดีที่สุด
เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้คุณเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะเราเชื่อว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทารก ทั้งยังให้ประโยชน์กับทารกในหลายด้าน การเตรียมตัวช่วงก่อนและระหว่างการให้นมทารกนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง คุณควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในสัดส่วนที่สมดุล
เมื่อคุณตัดสินใจที่จะไม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หรือเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ร่วมกับการใช้นมสูตรสำหรับทารก อาจลดประสิทธิภาพในการสร้างน้ำนมของคุณเองและทำให้การกลับมาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อีกครั้งทำได้ยากขึ้น ดังนั้นก่อนเริ่มใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรคำนึงถึงผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคมร่วมด้วย หากจำเป็นต้องใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรปฏิบัติตามข้อแนะนำในการเตรียม การใช้ และการเก็บรักษา อย่างระมัดระวังเพื่อสุขภาพที่ดีของทารก
เพื่อช่วยในการตัดสินใจที่ดีที่สุดเกี่ยวกับวิธีให้อาหารทารก แนะนำปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทุกครั้ง
เลือกอ่านตามหัวข้อที่ต้องการ
พัฒนาการด้านร่างกายลูกวัย 3 เดือน
การกระตุ้นพัฒนาการเด็กผ่านการเล่น
พัฒนาการด้านภาษาและการสื่อสารในวัย 3 เดือน
เช็กสัญญาณพัฒนาการล่าช้าในเด็กวัย 3 เดือน
ข้อควรระวังสำหรับคุณพ่อคุณแม่ในการดูแลเด็กวัย 3 เดือน
อาหารและโภชนาการสำหรับเด็กวัย 3 เดือน
วิธีเสริมพัฒนาการเด็ก3เดือน ด้วยกิจกรรมง่ายๆ ที่บ้าน
เด็ก 3 เดือนจะเริ่มมีความสามารถในการยกศีรษะขึ้นจากท่านอนคว่ำได้ โดยที่สามารถยกศีรษะและอกขึ้นได้อย่างชัดเจน เมื่อเวลาผ่านไป ทักษะนี้จะพัฒนาไปจนถึงการพลิกตัวจากท่านอนหงายไปนอนคว่ำได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อคอและหลังอย่างมาก นอกจากนี้ เด็กจะเริ่มใช้มือจับสิ่งของ ซึ่งยังไม่ค่อยมีความแม่นยำเท่าไรนัก แต่ยังคงพยายามยื่นมือไปจับสิ่งของรอบตัว
พัฒนาการเด็ก 3 เดือน เริ่มแสดงอารมณ์ทางสังคมมากขึ้น เช่น การยิ้มให้กับพ่อแม่และผู้ดูแล ซึ่งเป็นการแสดงพฤติกรรมการเข้าสังคม โดยตอบสนองด้วยการยิ้มให้กับผู้ที่ดึงดูดความสนใจในเชิงบวก และจะแสดงออกมาในรูปแบบของเสียงหัวเราะ ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาทางอารมณ์และสังคมของเด็กในระยะยาวค่ะ
ในวัยนี้ เด็ก 3 เดือน เริ่มสนใจสิ่งที่อยู่รอบตัวมากขึ้น โดยมักจะมองสิ่งต่างๆ ด้วยความสนใจ และมักจะหันหน้าตามเสียงที่ได้ยิน พัฒนาการทางสมองในวัย 3 เดือนจะเริ่มมีการเชื่อมต่อของเซลล์สมองมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เด็กสามารถประมวลผลข้อมูลจากสิ่งรอบข้างได้ดีขึ้น เด็กเริ่มมีการแสดงความสนใจต่อสิ่งที่มีสีสันและรูปแบบที่แตกต่างกันมากขึ้น
พัฒนาการเด็ก 3 เดือนจะเริ่มส่งเสียงออกมา เช่น การครางหรือการส่งเสียงต่าง ๆ เพื่อสื่อสารกับผู้ดูแลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เด็กจะเริ่มแสดงท่าทางหรือเสียงที่หมายถึงความต้องการบางอย่าง ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในอนาคต
หากคุณรู้สึกว่าลูกมีพัฒนาการที่ช้ากว่าปกติ คุณควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านพัฒนาการเด็ก เพื่อขอคำแนะนำและตรวจสอบว่ามีปัญหาทางพัฒนาการใดๆ ที่ต้องได้รับการแก้ไขหรือไม่ การพบแพทย์ในช่วงเวลานี้จะช่วยให้คุณได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องในการดูแลลูกของคุณ
ในช่วงวัยนี้ แม้พัฒนาการของลูกจะเริ่มก้าวหน้า แต่ก็ยังมีหลายสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรระวังเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยของลูก เช่น
-เด็กวัยนี้กระดูกและกล้ามเนื้อยังไม่แข็งแรง การเขย่าหรืออุ้มแรง ๆ อาจเป็นอันตรายได้
-อย่าปล่อยให้ลูกนอนคว่ำโดยไม่มีผู้ดูแล ควรให้ลูกนอนหงายเพื่อลดความเสี่ยงต่อโรค SIDS
-ของเล่นขนาดเล็กอาจเป็นอันตรายต่อเด็กหากนำเข้าปาก ควรเลือกของเล่นที่ปลอดภัย ไม่มีขอบแหลม คม ไม่มีชิ้นส่วนถอดได้
-หากลูกไม่ยิ้ม ไม่สนใจเสียงหรือการเคลื่อนไหว ควรปรึกษากุมารแพทย์
เด็กวัย 3 เดือนยังไม่ควรได้รับอาหารเสริมใด ๆ นอกเหนือจากนม การให้นมอย่างต่อเนื่องคือหัวใจของการดูแลโภชนาการในช่วงวัยนี้ นมแม่คือแหล่งอาหารหลัก เป็นอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน มีภูมิคุ้มกันธรรมชาติที่ช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ เด็กวัยนี้จะมีช่วงเวลาในการหิวนมที่ชัดเจน ควรให้นมทุก 2-4 ชั่วโมง หรือเมื่อลูกร้องหิว หากจำเป็นต้องดื่มนมผง ควรเลือกสูตรที่เหมาะสมกับวัย และเตรียมนมให้ถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเด็ก และเด็กวัยนี้ ยังไม่ควรให้ดื่มน้ำ เพราะในนมมีน้ำเพียงพอแล้ว และหากดื่มน้ำมากเกินไป จะทำให้เด็กอิ่มน้ำ และได้รับนมในปริมาณที่ลดลง มีผลกับการเจริญเติบโตได้
1.แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่เข้าใจคำพูด แต่การพูดคุยและสื่อสารด้วยท่าทางและเสียงจะช่วยให้พัฒนาทักษะทางการฟังและการเข้าใจในอนาคต
2.การให้เด็กเล่นกับของเล่นที่มีสีสันและเคลื่อนไหวได้จะช่วยกระตุ้นการพัฒนาในด้านการมองเห็นและการประสานงานของมือและตา
3.การเล่นในท่าคว่ำ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อคอและหลัง การกระตุ้นให้เด็กอยู่ในท่านี้จะช่วยให้เขาเริ่มฝึกทักษะทางร่างกาย
4.การแสดงความรัก การยิ้มและสัมผัสตัวเด็กอย่างอ่อนโยนจะช่วยให้เด็กรู้สึกปลอดภัยและได้รับการดูแลที่ดี
เด็กในช่วงวัย 3 เดือนควรทำอะไรได้บ้าง?
เด็ก 3 เดือนสามารถยกศีรษะขึ้นเมื่ออยู่ในท่านอนคว่ำ, พยายามจับสิ่งของที่อยู่ใกล้ตัว, และเริ่มแสดงอารมณ์ต่าง ๆ เช่น ยิ้มและหัวเราะ
เริ่มต้นฝึกเด็ก 3 เดือนควรทำอย่างไร?
ควรฝึกให้เด็กเล่นในท่านอนคว่ำเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อคอและหลัง ทั้งพูดคุยกับเด็กเพื่อส่งเสริมทักษะทางการสื่อสารให้มากขึ้น
พัฒนาการเด็ก 3 เดือนควรมีอะไรบ้าง?
พัฒนาการทางอารมณ์, ร่างกาย, การเรียนรู้, สังคม, และการสื่อสารเริ่มแสดงให้เห็นมากขึ้น
เด็กในวัย 3 เดือนจับนั่งได้ไหม?
เด็ก 3 เดือน สามารถจับนั่งพิงหมอนได้แค่ในระยะเวลาสั้นๆ เนื่องจากกล้ามบริเวณหลัง และลำตัวยังไม่แข็งแรงพอที่จะพยุงร่างกายให้อยู่ในท่านั่งได้ แต่กล้ามเนื้อคอของลูกแข็งแรงขึ้นสามารถยกศีรษะขึ้นเมื่ออยู่ในท่านอนคว่ำได้แล้ว
เด็กวัย 3 เดือน เป็นช่วงเวลาที่พัฒนาการเริ่มชัดเจนทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ และการเรียนรู้ โดยการเล่นเป็นเครื่องมือสำคัญในการกระตุ้นพัฒนาการ คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความใส่ใจทั้งในเรื่องกิจกรรม การพูดคุย โภชนาการ และความปลอดภัย เพื่อสนับสนุนการเติบโตของลูกอย่างเต็มศักยภาพ หากพบว่าลูกมีพัฒนาการล่าช้าหรือมีสัญญาณผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการดูแลอย่างเหมาะสม
1. https://www.phyathai.com/th/article/2777-%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1?srsltid=AfmBOoogLeo3Qudc5cGVIriprDUdy_xgPjq9vCU0PUlWDfOsS-wjp0ue
2. https://www.vibhavadi.com/th/blogs/nutrition-knowledge-for-children
3. https://courses.lumenlearning.com/wm-lifespandevelopment/chapter/emotional-development-and-attachment/
การสัมผัสสามารถช่วยให้ลูกน้อยได้เรียนรู้ 3 สิ่งที่สำคัญ คือ
บริการให้คำปรึกษาในทุกๆเรื่องที่คุณแม่กังวลใจ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล นักโภชนาการและคุณแม่ ที่พร้อมอยู่เคียงข้าง ตลอด 24 ชั่วโมง