นมแม่ดีที่สุด
เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้คุณเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะเราเชื่อว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทารก ทั้งยังให้ประโยชน์กับทารกในหลายด้าน การเตรียมตัวช่วงก่อนและระหว่างการให้นมทารกนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง คุณควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในสัดส่วนที่สมดุล
เมื่อคุณตัดสินใจที่จะไม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หรือเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ร่วมกับการใช้นมสูตรสำหรับทารก อาจลดประสิทธิภาพในการสร้างน้ำนมของคุณเองและทำให้การกลับมาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อีกครั้งทำได้ยากขึ้น ดังนั้นก่อนเริ่มใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรคำนึงถึงผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคมร่วมด้วย หากจำเป็นต้องใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรปฏิบัติตามข้อแนะนำในการเตรียม การใช้ และการเก็บรักษา อย่างระมัดระวังเพื่อสุขภาพที่ดีของทารก
เพื่อช่วยในการตัดสินใจที่ดีที่สุดเกี่ยวกับวิธีให้อาหารทารก แนะนำปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทุกครั้ง
เมื่อคุณแม่ให้นมลูกเอง หลายคนอาจเกิดคำถามว่า คุณแม่ต้องปล่อยให้ลูกน้อยดูดนมนานแค่ไหน ควรจะให้ลูกหยุดเมื่อไหร่ ถ้าปล่อยให้ดูดต่อไปเรื่อยๆ ลูกจะอิ่มเกินไปไหม
เลือกอ่านตามหัวข้อที่ต้องการ
3 วิธีเพื่อให้มั่นใจว่าลูกน้อยกินนมและได้รับสารอาหารเพียงพอ
ประโยชน์ของการให้ทารกดูดนมจากอกแม่
ท่าทางที่เหมาะสมสำหรับการให้นมลูก
ข้อแตกต่างของการดูดนมจากเต้ากับดูดนมจากขวด
ลูกน้อยต้องดูดนมแม่นานแค่ไหน และบ่อยเพียงใด
เมื่อคุณแม่ให้นมลูกเอง หลายคนอาจเกิดคำถามว่า คุณแม่ต้องปล่อยให้ลูกน้อยดูดนมนานแค่ไหน ควรจะให้ลูกหยุดเมื่อไหร่ ถ้าปล่อยให้ดูดต่อไปเรื่อยๆ ลูกจะอิ่มเกินไปไหม
มีหลักการง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณแม่มั่นใจว่าลูกได้รับนมเพียงพอดังต่อไปนี้
1. ฝึกอ่านภาษากายของลูกน้อย ที่แสดงว่าลูกหิว เช่น การขยับปาก ดูดปาก พยายามให้ลูกกินนมก่อนร้องไห้โยเยนะคะ
2. คุณแม่ควรป้อนนมเวลาที่ลูกต้องการ คือเมื่อลูกรู้สึกหิว
3. ให้ลูกควบคุมการกินนมเองเลยค่ะ เมื่อพอแล้ว เขาก็จะผละจากอกแม่เอง ปกติจะใช้เวลากินนมจากเต้าข้างละ 10-20 นาที
ทารกส่วนใหญ่จะกินนมถี่มากในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกของชีวิตค่ะ โดยเฉลี่ย ทุกๆ 2-3 ชั่วโมง (8-12 ครั้ง ต่อวัน) และเมื่อโตขึ้น จะค่อยๆ ลดการกินนมเป็นทุกๆ 3-4 ชั่วโมงค่ะ
1. ลูกน้อยมีความตื่นตัวต่อสิ่งเร้า มีความสุข และสุขภาพดี
2. น้ำหนักของลูกรักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
3. ลูกจะกินนม 8-12 ครั้งต่อวันในช่วงเดือนแรก หลังจากนั้น จะลดความถี่ลงประมาณ 6-10 ครั้งต่อวัน
4. ผ้าอ้อมลูกน้อยจะเปียกชื้นวันละ 6-8 ชิ้น
5. ลุกนอนหลับนานกว่า 2 ชม.
ทารกแต่ละคนอาจจะเติบโตได้เร็วมากน้อยไม่เท่ากันนะคะ เพียงคุณแม่สังเกตลูกน้อยตามวิธีดังกล่าวข้างต้น ก็จะเป็นตัวบอกได้ว่า ลูกน้อยได้รับนมแม่เพียงพอเพื่อที่จะเติบโตอย่างสมวัยหรือไม่ค่ะ
-ช่วยเสริมสร้างสายใยแม่ลูก ขณะให้นม การโอบกอดสัมผัสและสายตาที่แม่มอง
ลูกจะกระตุ้นพัฒนาการทางอารมณ์และสมองของลูก
-นมแม่มีสารอาหารครบถ้วน ในน้ำนมแม่มีสารอาหารและภูมิคุ้มกันที่จำเป็นสำหรับ
พัฒนาการสมองและร่างกาย เช่น โปรตีน ไขมัน วิตามิน นอกจากนี้ในนมแม่ยังมี
จุลินทรีย์สุขภาพ และอาหารของจุลินทรีย์สุขภาพซึ่งทำหน้าที่ร่วมกันในการสร้าง
ภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ ช่วยให้ลูกแข็งแรงและลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
-ลดโอกาสการเกิดโรคภูมิแพ้ หอบหืด รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิด
โรคติดเชื้อต่างๆ
1.ท่าลูกนอนขวางบนตัก แบบที่ 1
-อุ้มลูกน้อยหันหน้าเข้าหาอกแม่วางไว้บนตักคุณแม่
-จัดศีรษะลูกให้อยู่สูงกว่าลำตัวของลูกเล็กน้อย
-จัดท้ายทอยของลูกวางให้อยู่บริเวณแขนของคุณแม่
-มืออีกข้างประคองเต้านมไว้ เพื่อให้ลูกดูดได้ถนัด
2.ท่าลูกนอนขวางบนตัก แบบที่ 2
- ทำเหมือนกับท่าแบบที่ 1 เพียงแต่สลับข้างเท่านั้น
ซึ่งท่าที่ 1 และ 2 เป็นท่าที่สามารถประคองศรีษะและลำตัวของลูกได้กระชับเป็นอย่างดี
3.ท่าอุ้มลูกรักบี้หรือลูกฟุตบอล
-จัดท่าให้ลูกน้อยอยู่ในท่านอนตะแคงกึ่งนอนหงาย โดยขาชี้ไปทางด้านหลังใช้หมอนหนุนให้ความสูงพอดีกับเต้านม
-มือแม่จับบริเวณต้นคอและท้ายทอยของลูก
-กอดลูกให้กระชับกับเอวด้านข้างของคุณแม่จัดระดับให้เต้านมพอดีกับปากลูก
-ท่านี้ใช้ได้ดีสำหรับคุณแม่ที่เต้าใหญ่มากหรือมีลูกแฝดเพราะสามารถเข้าเต้าพร้อมกันทั้ง 2 เต้าได้
4.ให้นมท่านอน
-แม่ลูกนอนตะแคงเข้าหากัน โดยแม่นอนศีรษะสูงเล็กน้อย
-จัดท่าให้ปากลูกอยู่ตรงกับหัวนมของแม่โดยใช้ผ้าหรือหมอนรองให้ศรีษะลูกสูงกว่าลำตัวเล็กน้อย
-มือที่อยู่ด้านบนประคองเต้านมไว้
ก่อนจัดท่าให้นมในแต่ละท่าคุณแม่ควรหาเก้าอี้หรือโซฟาที่มีพนักพิง มีเบาะรองนั่งให้คุณแม่รู้สึกสบาย ผ่อนคลาย ก่อนนะคะ การใช้หมอนมารองตัวลูกให้อยู่ในระดับเต้านมคุณแม่ จะช่วยให้คุณแม่ให้นมแม่ในท่าทางที่สบายขึ้นค่ะ
การดูดนมจากเต้าต้องบอกก่อนเป็นการให้ได้มีการสัมผัสแนบชิดแม่ลูก ตัวลูกได้ใช้กล้ามเนื้อปากและลิ้นที่มากกว่า สารอาหารที่จะได้จากการดูดนมจากเต้าจะมากกว่า อีกทั้งประหยัดไม่ต้องเสียต้นทุนค่าใช้จ่าย ส่วนการดูดนมจากขวด จะทำให้ไม่มีการสัมผัสจากคนเป็นแม่มีระยะห่างพอสมควร การให้จะง่ายแต่เด็กจะติดขวดได้ด้วยเช่นเดียวกัน สารอาหารที่จะได้รับขึ้นอยู๋กับนมแต่ละสูตร มีทั้งค่านมผง ขวดนม อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จะต้องใช้ด้วยเหมือนกัน สรุปแล้วขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละครอบครัว แต่ดีที่สุดคือนมที่มาจากแม่เป็นลำดับแรกและค่อยปรับไปจะดีที่สุด
อ้างอิงจาก
https://multimedia.anamai.moph.go.th/help-knowledgs/benefits-of-breastfeeding/
https://premierehomehealthcare.co.th/%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87/
https://www.phukethospital.com/th/healthy-articles/breastfeeding/
https://www.beabathailand.com/content/7222/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%AB%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%A1
https://shorturl.asia/mA1WL
หลักการง่ายๆ คือ ให้ลูกน้อยของคุณแม่เป็นคนบอกนะคะ โดยลูกน้อยจะรู้เองค่ะ ว่าต้องการกินนมมากน้อยแค่ไหน จะหยุดเมื่อไร และรู้สึกอิ่มท้องเมื่อไร
ทารกส่วนใหญ่จะกินนมถี่มากในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกของชีวิตค่ะ โดยเฉลี่ย ทุกๆ 2-3 ชั่วโมง (8-12 ครั้ง ต่อวัน) และเมื่อลูกน้อยโตขึ้น จะค่อยๆ ลดการกินนมเป็นทุกๆ 3-4 ชั่วโมงค่ะ
ทารกแต่ละคนอาจจะเติบโตได้เร็วมากน้อยไม่เท่ากันนะคะ เพียงคุณแม่สังเกตลูกน้อยตามวิธีดังกล่าวข้างต้น ก็จะเป็นตัวบอกได้ว่า ลูกน้อยนั้นได้รับนมแม่เพียงพอเพื่อจะเติบโตอย่างสมวัยหรือไม่ค่ะ
บริการให้คำปรึกษาในทุกๆเรื่องที่คุณแม่กังวลใจ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล นักโภชนาการและคุณแม่ ที่พร้อมอยู่เคียงข้าง ตลอด 24 ชั่วโมง