สิ่งสำคัญที่ควรทราบ

นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เราสนับสนุนคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต จากนั้นเริ่มให้อาหารเสริมตามวัยที่ปลอดภัยอย่างเหมาะสมร่วมกับนมแม่จนครบ 2 ปี หรือนานกว่านั้น การได้รับโภชนาการที่ดีและสมดุลของมารดาในช่วงให้นมบุตรจึงมีความสำคัญยิ่ง  ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องใช้นมผสม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนตัดสินใจ และควรปฏิบัติตามข้อแนะนำในการเตรียมและการใช้อย่างระมัดระวังเพื่อสุขภาพที่ดีของลูกรัก


โภชนาการที่ดีควบคู่กับการส่งเสริมพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย คือ รากฐานสำคัญสำหรับการเจริญเติบโตของลูกรัก ไฮ-แฟมิลี่คลับ พร้อมเคียงข้างคุณแม่ ด้วยข้อมูลด้านโภชนาการและพัฒนาการที่เป็นประโยชน์ เพื่อสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีของทั้งคุณแม่และลูกรัก

วิธีรักษาตาแฉะ เข้าใจต้นเหตุ พร้อมวิธีดูแลให้ดวงตากลับมาปกติ

เลือกอ่านตามหัวข้อที่ต้องการ

ตาแฉะคืออะไร?

สาเหตุที่ทำให้ตาแฉะ

วิธีรักษาอาการตาแฉะ

การดูแลดวงตาเมื่อมีอาการตาแฉะ

วิธีป้องกันตาแฉะไม่ให้กลับมาอีก

คำถามที่พบบ่อย

สรุป

อาการตาแฉะ หรือที่หลายคนเรียกว่า “ตาเยิ้ม” เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โด เฉพาะในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับท่อน้ำตา แม้ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก แต่หากปล่อยไว้โดยไม่ดูแลอย่างถูกวิธี อาจนำไปสู่การติดเชื้อหรื ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้

 

ตาแฉะคืออะไร?

  • ตาแฉะ (Watery Eye) คือภาวะที่ดวงตาหลั่งน้ำตามากผิดปกติ หรือไม่สามารถระบายออกได้ตามธรรมชาติ
  • ทำให้น้ำตาไหลออกมาเรื่อย ๆ และสะสมอยู่บริเวณรอบดวงตา จนดวงตาเยิ้ม หรือเปียกชื้นอยู่ตลอดเวลา

 

สาเหตุที่ทำให้ตาแฉะ

อาการตาแฉะสามารถเกิดได้จาก 2 สาเหตุหลัก

  • การผลิตน้ำตามากเกินไป: อาจเกิดจากการระคายเคือง เช่น มีฝุ่นหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าตา ตาแห้ง หรือการอักเสบของกระจกตา ทำให้ดวงตาต้องหลั่งน้ำตาออกมาเพื่อล้างสิ่งเหล่านั้น
  • การระบายน้ำตาผิดปกติ: เมื่อท่อน้ำตาอุดตัน หรือตีบแคบ น้ำตาจะไม่สามารถระบายเข้าสู่โพรงจมูกได้ ทำให้ไหลย้อนออกมานอกตา

 

วิธีรักษาอาการตาแฉะ

การรักษาอาการตาแฉะจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ตรวจพบ

  • หากเกิดจากการระคายเคืองหรือภูมิแพ้: ใช้ยาหยอดตาที่ลดการอักเสบหรือยาแก้แพ้
  • หากเกิดจากการอุดตันของท่อน้ำตา: แพทย์อาจล้างท่อน้ำตา หรือในรายที่เป็นมากอาจต้องพิจารณาผ่าตัดเปิดทางระบายน้ำตาใหม่
  • หากมีการติดเชื้อ: ใช้ยาปฏิชีวนะตามที่แพทย์สั่ง

 

การดูแลดวงตาเมื่อมีอาการตาแฉะ

  • หลีกเลี่ยงการขยี้ตา เพราะอาจทำให้ตาระคายเคืองมากขึ้น
  • หมั่นล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา
  • หากต้องอยู่ในพื้นที่มีฝุ่นละออง ควรสวมแว่นตาเพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้าตา
  • ใช้น้ำเกลือหยอดตาหรือประคบอุ่นเพื่อลดการอักเสบ และกระตุ้นการไหลของน้ำตาในกรณีที่ท่อระบายอุดตัน

 

วิธีป้องกันตาแฉะไม่ให้กลับมาอีก

  • รักษาความสะอาดรอบดวงตาอย่างสม่ำเสมอ
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ลมแรงหรือมีฝุ่นมากโดยไม่ป้องกันดวงตา
  • หากใส่คอนแทคเลนส์ ควรทำความสะอาดอย่างถูกวิธี
  • ตรวจสุขภาพตากับจักษุแพทย์เป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการเรื้อรัง
img

 

คำถามที่พบบ่อย

 

ตาแฉะหายเองได้ไหม

ในบางกรณี เช่น การระคายเคืองเล็กน้อยหรือภาวะชั่วคราว ตาแฉะสามารถหายได้เอง แต่หากเป็นบ่อยหรือมีอาการรุนแรง ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย

 

อาการตาแฉะเกิดจากอะไร

อาจเกิดจากปัจจัยภายนอก เช่น ลม ฝุ่น หรือสิ่งแปลกปลอม และปัจจัยภายใน เช่น การอักเสบ ท่อน้ำตาอุดตัน หรือภาวะตาแห้งเรื้อรัง

 

ทำอย่างไรให้หายตาเยิ้ม

หาสาเหตุให้เจอ และรักษาตามสาเหตุ เช่น ใช้ยาหยอดตาในกรณีระคายเคือง หรือพบแพทย์หากสงสัยท่อน้ำตาอุดตัน นอกจากนี้ควรพักสายตาและหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น

 

ทําไมตาถึงแฉะตลอดเวลา

อาจเกิดจากการที่ท่อน้ำตาระบายไม่สะดวก หรือร่างกายหลั่งน้ำตามากเกินไปเพื่อชดเชยภาวะตาแห้ง ซึ่งควรตรวจโดยจักษุแพทย์เพื่อวินิจฉัยให้แน่ชัด

 

สรุป

อาการตาแฉะเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจสะท้อนถึงความผิดปกติของระบบระบายน้ำตาหรือภาวะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับดวงตา การดูแลรักษาอย่างถูกวิธี รวมถึงการป้องกันตั้งแต่ต้น จะช่วยให้ดวงตากลับมาชุ่มชื้นอย่างสมดุล และลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนในอนาคต

อ้างอิงจาก

https://www.doctorgarn.com/health-news/aesthetic/56552/

https://inz-clinic.com/watery-eyes/

https://www.skyclinicofficial.com/read/watery-eye

https://www.researchgate.net/publication/353878823_Watery_eyes

ภาพจาก Freepik

M25-081

carelinepic_resized2

ไฮ-แฟมิลี่ แคร์ไลน์

บริการให้คำปรึกษาในทุกๆเรื่องที่คุณแม่กังวลใจ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล นักโภชนาการและคุณแม่ ที่พร้อมอยู่เคียงข้าง ตลอด 24 ชั่วโมง

x