วิธีรักษาตาแฉะ เข้าใจต้นเหตุ พร้อมวิธีดูแลให้ดวงตากลับมาปกติ
เลือกอ่านตามหัวข้อที่ต้องการ
วิธีป้องกันตาแฉะไม่ให้กลับมาอีก
อาการตาแฉะ หรือที่หลายคนเรียกว่า “ตาเยิ้ม” เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โด เฉพาะในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับท่อน้ำตา แม้ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก แต่หากปล่อยไว้โดยไม่ดูแลอย่างถูกวิธี อาจนำไปสู่การติดเชื้อหรื ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้
ตาแฉะคืออะไร?
- ตาแฉะ (Watery Eye) คือภาวะที่ดวงตาหลั่งน้ำตามากผิดปกติ หรือไม่สามารถระบายออกได้ตามธรรมชาติ
- ทำให้น้ำตาไหลออกมาเรื่อย ๆ และสะสมอยู่บริเวณรอบดวงตา จนดวงตาเยิ้ม หรือเปียกชื้นอยู่ตลอดเวลา
สาเหตุที่ทำให้ตาแฉะ
อาการตาแฉะสามารถเกิดได้จาก 2 สาเหตุหลัก
- การผลิตน้ำตามากเกินไป: อาจเกิดจากการระคายเคือง เช่น มีฝุ่นหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าตา ตาแห้ง หรือการอักเสบของกระจกตา ทำให้ดวงตาต้องหลั่งน้ำตาออกมาเพื่อล้างสิ่งเหล่านั้น
- การระบายน้ำตาผิดปกติ: เมื่อท่อน้ำตาอุดตัน หรือตีบแคบ น้ำตาจะไม่สามารถระบายเข้าสู่โพรงจมูกได้ ทำให้ไหลย้อนออกมานอกตา
วิธีรักษาอาการตาแฉะ
การรักษาอาการตาแฉะจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ตรวจพบ
- หากเกิดจากการระคายเคืองหรือภูมิแพ้: ใช้ยาหยอดตาที่ลดการอักเสบหรือยาแก้แพ้
- หากเกิดจากการอุดตันของท่อน้ำตา: แพทย์อาจล้างท่อน้ำตา หรือในรายที่เป็นมากอาจต้องพิจารณาผ่าตัดเปิดทางระบายน้ำตาใหม่
- หากมีการติดเชื้อ: ใช้ยาปฏิชีวนะตามที่แพทย์สั่ง
การดูแลดวงตาเมื่อมีอาการตาแฉะ
- หลีกเลี่ยงการขยี้ตา เพราะอาจทำให้ตาระคายเคืองมากขึ้น
- หมั่นล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา
- หากต้องอยู่ในพื้นที่มีฝุ่นละออง ควรสวมแว่นตาเพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้าตา
- ใช้น้ำเกลือหยอดตาหรือประคบอุ่นเพื่อลดการอักเสบ และกระตุ้นการไหลของน้ำตาในกรณีที่ท่อระบายอุดตัน
วิธีป้องกันตาแฉะไม่ให้กลับมาอีก
- รักษาความสะอาดรอบดวงตาอย่างสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ลมแรงหรือมีฝุ่นมากโดยไม่ป้องกันดวงตา
- หากใส่คอนแทคเลนส์ ควรทำความสะอาดอย่างถูกวิธี
- ตรวจสุขภาพตากับจักษุแพทย์เป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการเรื้อรัง