สิ่งสำคัญที่ควรทราบ
นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เราสนับสนุนคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต จากนั้นเริ่มให้อาหารเสริมตามวัยที่ปลอดภัยอย่างเหมาะสมร่วมกับนมแม่จนครบ 2 ปี หรือนานกว่านั้น การได้รับโภชนาการที่ดีและสมดุลของมารดาในช่วงให้นมบุตรจึงมีความสำคัญยิ่ง ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องใช้นมผสม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนตัดสินใจ และควรปฏิบัติตามข้อแนะนำในการเตรียมและการใช้อย่างระมัดระวังเพื่อสุขภาพที่ดีของลูกรัก
โภชนาการที่ดีควบคู่กับการส่งเสริมพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย คือ รากฐานสำคัญสำหรับการเจริญเติบโตของลูกรัก ไฮ-แฟมิลี่คลับ พร้อมเคียงข้างคุณแม่ ด้วยข้อมูลด้านโภชนาการและพัฒนาการที่เป็นประโยชน์ เพื่อสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีของทั้งคุณแม่และลูกรัก
0 - 3 เดือน
4 - 6 เดือน
7 - 9 เดือน
10 - 12 เดือน
คุณแม่รู้ไหม? การกระตุ้นพัฒนาการของลูกตั้งแต่แรกเกิด คือกุญแจที่สำคัญ
สำหรับการพัฒนา สมอง, อารมณ์, และทักษะชีวิต ในระยะยาว สมองที่ได้กระตุ้น
ตั้งแต่เนิ่นๆ จะทั้งแกร่ง ยืดหยุ่น และพร้อมลุยทุกการเรียนรู้ใหม่ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่งเสริมด้านสติปัญญา ช่วยฝึกให้สมองของลูกได้เกิดการเรียนรู้ และจดจำ
ฝึกฝนให้ลูกมีสมาธิ สนใจสิ่งรอบข้างและได้ฝึกใช้สมองในการสั่งการให้ร่างกายตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้น
ฝึกการสื่อสารร่วมกับพ่อแม่ และช่วยให้ได้ใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กอีกด้วย
1. จัดท่าลูกในท่านอนหงาย ก้มหน้าใกล้ลูก ห่างจากหน้าประมาณ 20 ซม.
2. เรียกชื่อลูก หรือใช้ของเล่นกระตุ้นให้ลูกมองตาม
2.1. แรกเกิด - 1 เดือน : มองตามได้ถึงกึ่งกลางลำตัว
2.2. 1 - 2 เดือน : มองตามผ่านกึ่งกลางลำตัวได้
2.3. 2 - 3 เดือน : มองตามของเล่นที่เคลื่อนที่ได้เป็นมุม 180 องศา
3. ทำซ้ำ สลับจากซ้ายไปขวา และขวาไปซ้าย
4. หากลูกไม่มองตาม ให้ช่วยประคองหน้าลูกให้หันมองตาม ทำซ้ำจนลูกทำได้เอง
5. เมื่อลูกทำได้เพิ่มความท้าทายด้วยการเพิ่มระยะห่างของของเล่นได้ จาก 20 ซม. เป็น 30 ซม.
Reference
คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย
เข้าถึงได้จาก: https://multimedia.anamai.moph.go.th/ebooks/dspm/ 21 มิถุนายน 2566
*จากแหล่งอ้างอิงเป็นตัวอย่างในการคิดต่อยอดเพื่อใช้ในการสร้างเกม เนื่องจากการมีรวมช่วงอายุของแต่ละพัฒนาการไว้ด้วยกัน
ส่งเสริมด้านสติปัญญา ฝึกให้สมองของลูกได้เกิดการเรียนรู้ และจดจำใบหน้าของคนที่คุ้นเคย
ฝึกฝนลูกให้มีสมาธิ สมองได้ฝึกการจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ในระยะเวลาหนึ่งได้
ฝึกการสื่อสารร่วมกับพ่อแม่ เรียนรู้การรับและเข้าใจภาษา พร้อมฝึกฝนการตอบโต้กับพ่อแม่ได้
1. ทดลองพูดคุยกับลูก เพื่อให้ลูกเรียนรู้การเข้าใจภาษา และฝึกการตอบโต้ด้วยการสบตา
2. เพิ่มความน่าสนใจ ด้วยการทำตาโต ยิ้ม กระพริบตา และหัวเราะ รอให้ลูกตอบโต้ ด้วยสีหน้า หรือการจ้องตา
3. ลองใช้ของเล่นสีสดใส ยื่นไปใกล้ๆ หน้าลูก ฝึกกระตุ้นให้ลูกมองของเล่น สลับกับสบตาพ่อแม่
Reference
คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย
เข้าถึงได้จาก: https://multimedia.anamai.moph.go.th/ebooks/dspm/ 21 มิถุนายน 2566
*จากแหล่งอ้างอิงเป็นตัวอย่างในการคิดต่อยอดเพื่อใช้ในการสร้างเกม เนื่องจากการมีรวมช่วงอายุของแต่ละพัฒนาการไว้ด้วยกัน
ส่งเสริมให้สมองจดจำเสียงของพ่อแม่และเกิดการเรียนรู้เพื่อที่จะทำตาม
ฝึกฝนให้ลูกมีความสนใจจดจ่อ
เริ่มให้ลูกรู้จักการเรียนรู้การใช้ภาษา และการฝึกออกเสียง
1. จัดท่าลูกเป็นท่านอนหงาย หรืออุ้มลูก สัมผัสตัวลูก
2. พ่อแม่มองสบตาลูก พูดด้วยเสียงสูงต่ำ เพื่อให้ลูกสนใจ จากนั้นหยุดรอให้ลูกส่งเสียงตอบ
3. เพิ่มการเคลื่อนไหว ด้วยการยื่นหน้าเข้าไปหาลูก สบตาพูดคุย ทำเสียง อู หรือ อือ หรือ อา ในลำคอให้ลูกได้ยิน หลังจากจากนั้นหยุดฟังให้ลูกส่งเสี่ยงตาม
4. เมื่อลูกทำได้ เพิ่มความท้าทายด้วยจการยื่นหน้าออกจากลูกเพิ่มขึ้นจนถึงประมาณ 60 ซม.
Reference
คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย
เข้าถึงได้จาก: https://multimedia.anamai.moph.go.th/ebooks/dspm/ 21 มิถุนายน 2566
*จากแหล่งอ้างอิงเป็นตัวอย่างในการคิดต่อยอดเพื่อใช้ในการสร้างเกม เนื่องจากการมีรวมช่วงอายุของแต่ละพัฒนาการไว้ด้วยกัน
คุณแม่รู้ไหม? การกระตุ้นพัฒนาการของลูกตั้งแต่แรกเกิด คือกุญแจที่สำคัญ
สำหรับการพัฒนา สมอง, อารมณ์, และทักษะชีวิต ในระยะยาว สมองที่ได้กระตุ้น
ตั้งแต่เนิ่นๆ จะทั้งแกร่ง ยืดหยุ่น และพร้อมลุยทุกการเรียนรู้ใหม่ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
พัฒนาความจำ ให้ลูกได้ฝึกการจดจำน้ำเสียง และใบหน้าของพ่อแม่ผู้ปกครอง
กระตุ้นให้ลูกมีสมาธิจดจ่อกับของเล่น หรือสิ่งที่ต้องสนใจได้
ให้ลูกเรียนรู้การสื่อสารกับคนอื่นๆ เช่นพ่อแม่ และยังช่วยให้ลูกได้ฝึกการเคลื่อนไหวร่างกาย พัฒนากล้ามเนื้อ
1. จัดให้ลูกอยู่ท่านอนคว่ำ ข้อศอกงอไว้
2. คุณพ่อคุณแม่ส่งเสียงเรียกชื่อตรงหน้าลูก เพื่อให้ลูกมองและสนใจ เพื่อให้ลูกยกศีรษะ โดยมือยันพื้นไว้ แขนเหยียดตรง หน้าอกพ้นพื้น
3. หรือ จะใช้เป็นของเล่น ถือไว้เหนือศีรษะลูกและเรียกชื่อพร้อมขยับของเล่น เพื่อให้ลูกสนใจและยกศีรษะตาม โดยมือจะยันพื้นไว้ แขนเหยียดตรงจนหน้าอกและท้องพ้นพื้น
Reference
คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย
เข้าถึงได้จาก: https://multimedia.anamai.moph.go.th/ebooks/dspm/ 21 มิถุนายน 2566
*remark จากแหล่งอ้างอิงเป็นตัวอย่างในการคิดต่อยอดเพื่อใช้ในการสร้างเกม เนื่องจากการมีรวมช่วงอายุของแต่ละพัฒนาการไว้ด้วยกัน
ส่งเสริมให้สมองลูกได้เรียนรู้การจดจำสิ่งต่างๆ รอบตัวมากขึ้น
กระตุ้นให้สามารถจดจ่อกับสิ่งตรงหน้าได้
จะช่วยให้ลูกรู้จักใช้สติปัญญาโดยการพัฒนาทักษะกระบวนการคิดและแก้ปัญหา รวมไปถึงการช่วยเหลือตัวเอง
ฝึกฝนการมีปฎิสัมพันธ์กับคนในครอบครัวและผู้อื่น พร้อมพัฒนาการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก
1. จัดให้ลูกอยู่ในท่านอนหงาย หรือนั่งหันหน้าเข้าหาพ่อแม่
2. เขย่าของเล่นให้ห่างจากลูก ประมาณ 20-30 ซม. หรือในระยะที่ลูกเอื้อมได้ถึง ฝึกให้ลูกเอื้อมหยิบจับสิ่งของ
3. หรือ เรียกชื่อพร้อมสบตา และนำของเล่นมาอยู่ในระดับสายตาให้ลูกสนใจ และพูดกับลูกเกี่ยวกับของเล่น จะเป็นสีชุด สีผม เพื่อให้ลูกมองตาม
4. ถ้าลูกไม่เอื้อมจับ ให้ใช้ของเล่นแตะที่หลังมือเบาๆ หรือจับมือลูกเอื้อมาจับของเล่น ทำซ้ำๆ จนลูกทำเองได้
5. สามารถแขวนโมบายในระยะที่เอื้อมถึง เพื่อให้ลูกสนใจและคว้าหยิบ
Reference
คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย
เข้าถึงได้จาก: https://multimedia.anamai.moph.go.th/ebooks/dspm/ 21 มิถุนายน 2566
*remark จากแหล่งอ้างอิงเป็นตัวอย่างในการคิดต่อยอดเพื่อใช้ในการสร้างเกม เนื่องจากการมีรวมช่วงอายุของแต่ละพัฒนาการไว้ด้วยกัน
ส่งเสริมสมองด้านความจำ ฝึกให้จดจำใบหน้าผู้คนและน้ำเสียงที่ได้ยิน
กระตุ้นให้ลูกมีสมาธิจดจ่อกับกิจกรรมที่ทำ
ลูกเรียนรู้การแสดงความรู้สึกผ่านการออกเสียงและสีหน้า และช่วยเสริมสร้างอารมณ์ดีให้กับลูก
1. มองและสบตาลูก พูดด้วยเสียงสูงๆ ต่ำๆ เพื่อให้ลูกส่งเสียง หรือแสดงความรู้สึกตาม
2. ใช้นิ้วสัมผัสเบาๆ ตามจุดต่างๆ ของร่างกาย เช่นฝ่าเท้า ท้อง เอว หรือใช้จมูกหอมหน้าผาก แก้ม จมูก ท้องลูก เบาๆ โดยการสัมผัสแต่ละครั้งให้น้ำหนักแรงเบาแตกต่างกันไป
3. สามารถอุ้มลูกไปหาคนที่คุ้นเคย เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย และทักทายให้ลูกดู
4. พูดกระตุ้นให้ลูกทำตาม เช่น ยิ้มหวานให้คุณปู่ซิลูก เป็นต้น
Reference
คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย
เข้าถึงได้จาก: https://multimedia.anamai.moph.go.th/ebooks/dspm/ 21 มิถุนายน 2566
*remark จากแหล่งอ้างอิงเป็นตัวอย่างในการคิดต่อยอดเพื่อใช้ในการสร้างเกม เนื่องจากการมีรวมช่วงอายุของแต่ละพัฒนาการไว้ด้วยกัน
คุณแม่รู้ไหม? การกระตุ้นพัฒนาการของลูกตั้งแต่แรกเกิด คือกุญแจที่สำคัญ
สำหรับการพัฒนา สมอง, อารมณ์, และทักษะชีวิต ในระยะยาว สมองที่ได้กระตุ้น
ตั้งแต่เนิ่นๆ จะทั้งแกร่ง ยืดหยุ่น และพร้อมลุยทุกการเรียนรู้ใหม่ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
พัฒนาสมองทางด้านความจำ เช่น การจำท่าทาง จดจำเสียง และลองออกเสียงตามได้
กระตุ้นให้ลูกมีสมาธิจดจ่อกับกิจกรรมที่ทำ
เสริมสร้างสมองให้มีจินตนาการผ่านเสียงเพลง และการออกท่าทางเต้นตามจังหวะ
ช่วยให้ลูกมีปฎิสัมพันธ์กับพ่อแม่ และฝึกการเคลื่อนไหวของร่างกาย พัฒนากล้ามเนื้อขยับร่างกาย และขาได้
1. จัดลูกยืนเกาะพ่อแม่ โดยจับที่บริเวณสะโพกก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนมาจับที่เข่า แล้วจึงจับมือลูกไปเกาะที่เก้าอี้ หรือ โต๊ะ
2. เมื่อลูกเริ่มยืนเกาะได้เอง ให้ลูกทำต่อโดยไม่นำหน้าอกไปพิง หรือท้าวแขนเพื่อพยุงตัว
3. สามารถเปิดเพลง หรือใช้ของเล่นเขย่า กระตุ้นให้เต้นตามจังหวะได้
Reference
คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย
เข้าถึงได้จาก: https://multimedia.anamai.moph.go.th/ebooks/dspm/ 21 มิถุนายน 2566
*remark จากแหล่งอ้างอิงเป็นตัวอย่างในการคิดต่อยอดเพื่อใช้ในการสร้างเกม เนื่องจากการมีรวมช่วงอายุของแต่ละพัฒนาการไว้ด้วยกัน
พัฒนาและเสริมสร้างสติปัญญาและความจำให้กับลูก
ได้ กระตุ้นให้มีสมาธิและสามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งตรงหน้าได้
ช่วยกระตุ้นให้ลูกมีจินตนาการผ่านการเล่นได้อย่างเหมาะสมตามช่วงวัย
ให้ลูกเรียนรู้และกระตุ้นทักษะการฝึกแก้ปัญหา และการสังเกตสิ่งต่างๆ รอบตัว
ฝึกฝนการมีปฎิสัมพันธ์ และสื่อสารกับคนในครอบครัว รวมถึงผู้อื่นเป็น
1. เล่นกิจกรรมจ๊ะเอ๋ โดยการใช้มือปิดหน้า เปิดมือออกพร้อมส่งเสียงจ๊ะเอ๋
2. เมื่อใช้มือจนคุ้นเคยแล้ว สามารถเพิ่มเป็นการใช้ผ้าบังหน้า แล้วโผล่หน้าออกมาจากผ้าเช็ดหน้าพร้อมกับพูดว่า จ๊ะเอ๋
3. หยุดรอจังหวะให้ลูกหันมามอง หรือยิ้มเล่นโต้ตอบ
4. ฝึกบ่อยๆ จนลูกสามารถโผล่หน้ามาจ๊ะเอ๋เองได้
5. เพิ่มความท้าทาย ด้วยการซ่อนของเล่นไว้ใต้ผ้าแล้วให้ลูกหา เริ่มจากซ่อนไว้บางส่วน แล้วค่อยๆ ซ่อนทั้งชิ้น เพื่อฝึกทั้งทักษะการสังเกต และความจำ
Reference
คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย
เข้าถึงได้จาก :https://multimedia.anamai.moph.go.th/ebooks/dspm/ 21 มิถุนายน 2566
*จากแหล่งอ้างอิงเป็นตัวอย่างในการคิดต่อยอดเพื่อใช้ในการสร้างเกม เนื่องจากการมีรวมช่วงอายุของแต่ละพัฒนาการไว้ด้วยกัน
ฝึกให้สมองของลูกได้พัฒนาด้านความจำ และจดจำได้ดียิ่งขึ้น
ส่งเสริมให้ลูกมีสมาธิ ใช้สมองในการสั่งการให้ร่างกายตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นตามคำสั่ง
ส่งเสริมให้ลูกมีสมาธิ ใช้สมองในการสั่งการให้ร่างกายตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นตามคำสั่ง
1. มองหน้าสบตากับลูก และออกคำสั่งง่ายๆ เช่น โบกมือ ตบมือ โดยทำท่าทางประกอบตามไปด้วยขณะที่ ออกคำสั่ง ทำบ่อยๆให้ลูกสนใจและทำตามได้
2. ถ้าลูกไม่ทำตาม ให้จับมือลูกทำตามคำสั่งนั้นๆ เมื่อลูกเริ่มทำเองได้แล้ว เปลี่ยนเป็นการออกคำสั่งอย่างเดียว
3. เพิ่มความท้าทาย ด้วยการออกคำสั่งทำท่าทางประกอบเพลง เพื่อฝึกการเคลื่อนไหวตามเพลง เช่นเพลง “นิ้วโป้งอยู่ไหน…” และไล่ให้ครบทุกนิ้ว เพื่อให้ลูกฝึกเข้าใจภาษาและจดจำ
Reference
คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย
เข้าถึงได้จาก :https://multimedia.anamai.moph.go.th/ebooks/dspm/ 21 มิถุนายน 2566
*จากแหล่งอ้างอิงเป็นตัวอย่างในการคิดต่อยอดเพื่อใช้ในการสร้างเกม เนื่องจากการมีรวมช่วงอายุของแต่ละพัฒนาการไว้ด้วยกัน
คุณแม่รู้ไหม? การกระตุ้นพัฒนาการของลูกตั้งแต่แรกเกิด คือกุญแจที่สำคัญ
สำหรับการพัฒนา สมอง, อารมณ์, และทักษะชีวิต ในระยะยาว สมองที่ได้กระตุ้น
ตั้งแต่เนิ่นๆ จะทั้งแกร่ง ยืดหยุ่น และพร้อมลุยทุกการเรียนรู้ใหม่ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
ฝึกฝนให้ลูกมีสมาธิ สนใจสิ่งรอบข้างและได้ฝึกใช้สมองในการสั่งการให้ร่างกายตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้น
กระตุ้นสมองของลูกให้มีจินตนาการผ่านการอ่าน และดูภาพจากในหนังสือ
ส่งเสริมให้ลูกมีสมาธิ ใช้สมองในการจดจ่อกับสิ่งหน้าสนใจตรงหน้า
ช่วยให้ลูกมีปฎิสัมพันธ์กับพ่อแม่ ฝึกการสื่อสาร ตอบโต้กับสิ่งที่สนใจ
1. เตรียมหนังสือรูปภาพ และอุ้มลูกมานั่งบนตักด้วยกัน
2. เริ่มเปิดหนังสือ ชี้ภาพ ชวนลูกดูภาพในหนังสือ และเล่าเรื่องพูดคุยเกี่ยวกับภาพนั้นๆ
3. หากลูกไม่ฝึกมอง ให้ประคองหน้าลูกเพื่อมองตามรูปภาพที่ชี้
Reference
คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย
เข้าถึงได้จาก :https://multimedia.anamai.moph.go.th/ebooks/dspm/ 21 มิถุนายน 2566
*จากแหล่งอ้างอิงเป็นตัวอย่างในการคิดต่อยอดเพื่อใช้ในการสร้างเกม เนื่องจากการมีรวมช่วงอายุของแต่ละพัฒนาการไว้ด้วยกัน
พัฒนาและเสริมสร้างสติปัญญาและความจำ
กระตุ้นให้มีสมาธิและสามารถจดจ่อกับกิจกรรมที่สอน
ช่วยกระตุ้นให้ลูกมีจินตนาการผ่านการเล่นได้อย่างเหมาะสมตามช่วงวัย
ให้ลูกเรียนรู้และกระตุ้นทักษะการฝึกแก้ปัญหา เรียนรู้การใช้สิ่งของตามสถานการาณ์ต่างๆ
ฝึกฝนการมีปฎิสัมพันธ์ และสื่อสารกับคนในครอบครัว ให้ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน
1. เริ่มฝึกจากิจกรรมหวีผม ใช้หวียื่นให้ลูก และสอนการใช้หวี ด้วยการหวีผม
2. ฝึกต่อด้วยกิจกรรมป้อนอาหารลูก โดยการยื่นช้อนให้ลูก และสอนวิธีการใช้ช้อน ป้อนอาหารเข้าปาก
3. หลังจากทำได้แล้ว ฝึกด้วยกิจกรรมดื่มน้ำ โดยใช้แก้วน้ำยื่นให้ลูก และทำให้ดู กระตุ้นให้ลูกทำตาม
4. สุดท้ายกิจวัติประจำวัน ฝึกการแปรงฟัน ด้วยแปรงสีฟันเด็ก ยื่นให้ลูกถือเพื่อความคุ้น เคยและสอนการใช้แปรงสีฟัน ด้วยการทำให้ลูกดู พร้อมกระตุ้นให้ลูกทำตาม
5. เมื่อสอนลูกครบทั้ง 4 อุปกรณ์แล้ว ทดสอบลูกด้วยการยื่นของเล่นทีละชิ้นให้ลูก จนครบทั้ง 4 ชิ้น
6. สังเกตว่าลูกเล่นของเล่นได้ตามประโยชน์ของชิ้นนั้นๆ หรือไม่
Reference
คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย
เข้าถึงได้จาก :https://multimedia.anamai.moph.go.th/ebooks/dspm/ 21 มิถุนายน 2566
*จากแหล่งอ้างอิงเป็นตัวอย่างในการคิดต่อยอดเพื่อใช้ในการสร้างเกม เนื่องจากการมีรวมช่วงอายุของแต่ละพัฒนาการไว้ด้วยกัน
กระตุ้นให้มีสมาธิและสามารถจดจ่อกับสถานการณ์ตรงหน้า
ให้ลูกเรียนรู้และกระตุ้นทักษะการฝึกแก้ปัญหา และแสดงความต้องการได้
ฝึกฝนการมีปฎิสัมพันธ์ และสื่อสารถึงความต้องการของลูกได้
1. จัดท่าลูกเป็นท่านอนหงาย หรืออุ้มลูก สัมผัสตัวลูก
2. พ่อแม่มองสบตาลูก พูดด้วยเสียงสูงต่ำ เพื่อให้ลูกสนใจ จากนั้นหยุดรอให้ลูกส่งเสียงตอบ
3. เพิ่มการเคลื่อนไหว ด้วยการยื่นหน้าเข้าไปหาลูก สบตาพูดคุย ทำเสียง อู หรือ อือ หรือ อา ในลำคอให้ลูกได้ยิน หลังจากจากนั้นหยุดฟังให้ลูกส่งเสี่ยงตาม
4. เมื่อลูกทำได้ เพิ่มความท้าทายด้วยจการยื่นหน้าออกจากลูกเพิ่มขึ้นจนถึงประมาณ 60 ซม.
1. นำอาหารที่ลูกชอบมาวางได้ด้านหน้าลูก 2-3 อย่าง
2. ถามลูกด้วยประโยคคำถาม เช่น “หนูเอาอันไหน?” หรือ “หนูเอาไหมคะ/ครับ”
3. รอให้ลูกแสดงความต้องการ เช่น ชี้ หรือ เอื้อมจะหยิบ คอยสังเกตว่าลูกทำอย่างไรเมื่อต้องการสิ่งต่างๆ
4. แล้วจึงหยิบของที่ลูกต้องการส่งให้ลูก
5. ทำแบบนี้ทุกครั้ง เมื่อเด็กต้องการเลือกอาหาร
Reference
คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย
เข้าถึงได้จาก :https://multimedia.anamai.moph.go.th/ebooks/dspm/ 21 มิถุนายน 2566
*จากแหล่งอ้างอิงเป็นตัวอย่างในการคิดต่อยอดเพื่อใช้ในการสร้างเกม เนื่องจากการมีรวมช่วงอายุของแต่ละพัฒนาการไว้ด้วยกัน
บริการให้คำปรึกษาในทุกๆเรื่องที่คุณแม่กังวลใจ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล นักโภชนาการและคุณแม่ ที่พร้อมอยู่เคียงข้าง ตลอด 24 ชั่วโมง