เช็กให้ชัวร์! วันนี้ลูกรักได้รับสารอาหารครบถ้วนแล้วหรือยัง?
เมื่อลูกรักอายุครบ 1 ขวบปี การให้ลูกได้ทานอาหารครบ 3 มื้อ ที่มีสารอาหารครบถ้วน 5 หมู่ ตามสัดส่วนที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกาย ระบบประสาทและสมองของลูก เจริญเติบโตได้อย่างสมวัย แต่คุณแม่หลายๆ คน คงรู้ดีว่า การจะให้ลูกกินข้าวครบ 3 มื้อ ทั้งยังได้ตามสัดส่วนที่ร่างกายต้องการนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเด็กเล็กมักมีปัญหาพฤติกรรมการกิน บางคน กินน้อย กินยาก หรือกินอาหารได้ไม่หลากหลาย จึงทำให้เขาได้รับสารอาหารไม่เพียงพอในปริมาณที่ต้องได้รับต่อวัน เพราะฉะนั้นในวันนี้ Hi-Family ขอชวนคุณแม่มาเช็กว่า ในแต่ละวันลูกได้รับสารอาหารครบถ้วนแล้วหรือยัง? มาเทียบกันกับตารางนี้เลยค่ะ
ปริมาณอาหารสำหรับเด็กอายุ 1-3 ปี ที่ควรได้รับใน 1 วัน และอาหารทดแทน
Ref คู่มือแนวทางการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพด้านโภชนาการในคลินิกสุขภาพเด็กดี สำหรับบุคลากรสาธารณสุข สำนักโภชนาการ
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2558
เมื่อทำเช็กลิสตามตารางด้านบนจะช่วยให้คุณแม่ทราบถึงพฤติกรรมการกินของลูกว่าปริมาณสารอาหารที่ได้รับในแต่ละวันครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งโดยปกติแล้ว เด็กวัย 1-3 ขวบ ต้องการพลังงานโดยเฉลี่ยต่อวันมากถึง 1,000 แคลอรี โดยต้องเป็นพลังงานจากโปรตีนร้อยละ 8-10 คาร์โบไฮเดรตร้อยละ 45-65 และไขมันร้อยละ 30-40 ของพลังงานทั้งหมดที่ได้รับต่อวัน และที่สำคัญต้องได้รับวิตามิน แร่ธาตุที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต ตามนี้ด้วยค่ะ
วิตามินและแร่ธาตุช่วยให้ลูกเติบโตสมวัย
วิตามิน / แร่ธาตุ | ปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน |
วิตามิน เอ | 300 มค. |
วิตามิน ซี | 25 มก. |
วิตามิน บี 12 | 0.9 มค. |
แคลเซียม | 500 มก. |
เหล็ก | 5 มก. |
สังกะสี | 4.4 มก. |
ไอโอดีน | 90 มค. |
Ref. ปริมาณสารอาหารอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวันสำหรับคนไทย พ.ศ. 2563 สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
แต่ในความเป็นจริงแล้ว เด็กเล็กมักมีปัญหาพฤติกรรมการกิน บางคน กินน้อย กินยาก หรือกินอาหารไม่ครบตามสัดส่วนที่ควรได้รับ จึงทำให้เขาได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ สอดคล้องกับผลการวิจัยว่า เด็กไทยได้รับโภชนาการที่ไม่เหมาะสม
สารอาหารที่เด็กไทยส่วนใหญ่ขาด |
เด็กไทย 1 ใน 3 ขาดธาตุเหล็ก และมากกว่าร้อยละ 50 ได้รับ ธาตุเหล็ก แคลเซียม สังกะสี วิตามินเอ วิตามินซี น้อยกว่าที่ควร ทั้งหมดนี้ คือสารอาหารที่มีผลต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ รวมทั้งสมอง |
ผลจากการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
|
สารอาหารที่เด็กไทยส่วนใหญ่เกิน |
90% ของเด็กเล็กบริโภคโปรตีนมากเกินจำเป็น (ทั้งจากการกินเนื้อสัตว์และนมวัว) เด็กอายุ 1-3 ปี ต้องการโปรตีนเฉลี่ย 1.3 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน หรือประมาณ 17 กรัมต่อวัน เท่านั้น |
ผลจากการได้รับโปรตีนมากเกินไป ·ดัชนีมวลกายและไขมันในร่างกายเพิ่มขึ้น เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจและความดันโลหิตสูงได้ในอนาคต |
Ref. ปริมาณสารอาหารอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวันสำหรับคนไทย พ.ศ. 2563 สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
ความแตกต่างระหว่างนมผง, นมเสริมสาอาหารแบบยูเอชที, นมวัวยูเอชที สำหรับเด็กวัย 1 ปี ขึ้น
นมวัวที่ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อและระเหยน้ำออกให้กลายเป็นผง แล้วเติมสารอาหารที่สำคัญสำหรับเด็กตามแต่ละช่วงวัยลงไป
จุดเด่น คือสามารถเติมสารอาหารได้หลากหลายในปริมาณที่เด็กต้องการ เช่น ใยอาหาร ดีเอชเอ โอเมก้า วิตามิน และ แร่ธาตุต่างๆ ให้คุณค่าสารอาหารและยังคงคุณค่า และรสชาติที่ดีได้
นอกจากนี้ในบางผลิตภัณฑ์ยังสามารถเติมจุลินทรีย์สุขภาพที่มีชีวิตได้ (โพรไบโอติก) ซึ่งเมื่อได้รับในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยส่งเสริมสุขภาพของเด็ก และอาจมีการเติมอาหารสำหรับเลี้ยงจุลินทรีย์สุขภาพ (พรีไบโอติก) เพื่อให้จุลินทรีย์สุขภาพเจริญเติบโตได้ดี ซึ่งการทำงานร่วมกันระหว่างพรีไบโอติก และโพรไบโอติกเรียกว่าการทำงานแบบซินไบโอติก
นมวัวน้ำบรรจุกล่องที่มีการเติมสารอาหารเข้าไปเพิ่มเติม เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของเด็กมากยิ่งขึ้น แล้วนำไปผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อจุลินทรีย์เช่นเดียวกับนมวัวยูเอชที 100%
จุดเด่น คือสามารถเติมสารอาหารเข้าไปได้หลากหลายชนิด เช่น ดีเอชเอ โอเมก้า วิตามิน แร่ธาตุ และยังให้ความสะดวกในการพกพาไปรับประทานนอกบ้าน
แต่ด้วยข้อจำกัดในกระบวกการผลิต สารอาหารบางประเภทจึงไม่สามารถเติมลงไปในปริมาณที่สูงได้ เพราะอาจส่งผลต่อรสชาติ และเนื่องจากกระบวนการผลิตต้องผ่านความร้อนสูง จึงไม่สามารถเติมจุลินทรีย์สุขภาพ (โพรไบโอติก) ลงไปได้
นมวัวน้ำบรรจุกล่องที่ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ โดยใช้อุณหภูมิสูง 135-150 องศาเซลเซียสในช่วงเวลาสั้นๆ 2-4 วินาทีเพื่อทำลายจุลินทรีย์ จะได้เก็บนมได้นานขึ้น
จุดเด่น คือเป็นนมวัว 100% ให้ความสะดวกเมื่อต้องพกพาออกไปรับประทานนอกบ้าน และยังมีแคลเซียมสูงซึ่งช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตได้ดี
อย่างไรก็ตามนมวัวอาจไม่เหมาะกับเด็กเล็กที่ระบบการย่อยยังพัฒนาได้ไม่สมบูรณ์เนื่องจากโมเลกุลโปรตีนมีขนาดใหญ่ และไม่ได้มีการเสริมสารอาหารเพิ่มเติมให้เหมาะกับเด็กเล็ก
ด้วยกรรมวิธีการผลิตที่แตกต่างกัน ทำให้นมแต่ละชนิดมีสารอาหารที่ต่างกันด้วย ดังตารางนี้ค่ะ
จากตารางคุณแม่จะเห็นว่า
• นมวัว 100% ยูเอชที ให้ความสะดวกพกพาง่าย มีโปรตีนและแคลเซียมสูง ช่วยเรื่องการเจริญเติบโต
• นมเสริมสารอาหารแบบ ยูเอชที มีการเติมสารอาหารบางชนิดเพื่อให้เด็กเล็กได้รับสารอาหารหลากหลายมากขึ้น และเพิ่มความสะดวกให้คุณแม่ เพราะสามารถพกไปทานได้ทุกที่ทุกเวลา
• นมผง เป็นนมที่มีการเติมสารอาหารที่หลากหลาย โดยอาจมีชนิดของสารอาหารและปริมาณที่มากกว่านมยูเอชที ทั้งดีเอชเอ โอเมก้า วิตามิน แร่ธาตุ ในปริมาณที่เด็กต้องการ ในบางผลิตภัณฑ์อาจมีการเติมจุลินทรีย์สุขภาพที่มีชีวิต ซึ่งหากได้รับในปริมาณที่เหมาะสมจะทำให้เกิดผลที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
ดังนั้น เมื่อลูกอายุครบ 1 ขวบ ควรเลือกนมให้เหมาะสมกับช่วงวัยและพฤติกรรมการกินของลูกค่ะ และเพื่อให้ลูกน้อยได้รับโภชนาการที่ดีและครบถ้วนที่สุด ต้องให้ลูกทานอาหาร 3 มื้อ ทานให้หลากหลาย ครบทั้ง 5 หมู่อย่างครบถ้วน เหมาะสมด้วยค่ะ
ไฮ-แฟมิลี่ แคร์ไลน์
บริการให้คำปรึกษาในทุกๆเรื่องที่คุณแม่กังวลใจ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล นักโภชนาการและคุณแม่ ที่พร้อมอยู่เคียงข้าง ตลอด 24 ชั่วโมง