8 เคล็ดลับตั้งชื่อลูกอย่างไร ไม่ให้พ่อ แม่ และลูก เปลี่ยนใจอยากเปลี่ยนชื่อในภายหลัง
1. เมื่อตั้งชื่อลูกชาย ลูกสาว คิดทบทวนจนได้ชื่อมาแล้ว ให้สมมุติว่าเราได้ตั้งชื่อนี้แล้ว และลองซ้อมเรียกและลองออกเสียงบ่อยๆ ประมาณ 2-3 วัน จากนั้น พ่อแม่จะเริ่มรู้เอง ว่าชื่อนั้น เหมาะสมกับลูกจริงหรือไม่
2. พยายามหาชื่อลูกชาย ลูกสาวที่จำง่าย เรียกง่าย ฟังแล้วไม่ซับซ้อนจนเกินไป โดยเฉพาะชื่อเล่นของลูก ที่ใครๆ ก็สามารถเรียกได้ในทันทีเมื่อรู้จักครั้งแรก โดยไม่ต้องให้ถามซ้ำ
3. เข้าใจก่อนว่า ชื่อบางชื่ออาจจะฟังดูเพราะดีกับคนอื่น กับดาราที่เราชื่นชอบ แต่พอมาตั้งชื่อลูกเรา อาจจะไม่เข้ากับลูกเราก็ได้ เพราะฉะนั้นไม่ควรจะอยู่บนพื้นฐานของดาราที่ชื่นชอบเพียงอย่างเดียว ควรคำนึงถึงนามสกุลและความเหมาะสมด้วย
4. หนึ่งในสิ่งที่ทำให้การตั้งชื่อจำง่าย และน่าสนใจ ไม่ทำให้ฟังแล้วแปลกไปในภายหลัง นั่นก็คือการตั้งชื่อจริง ให้อ่านออกเสียงสอดคล้องกับนามสกุล
5. ชื่อดี ไม่จำเป็นต้องเป็นชื่อที่ยาว ถ้าคุณสังเกตจะพบว่าผู้นำและคนดังทั่วโลก มักมีชื่อที่สั้น ทั้งสิ้น เช่น (Elon Musk, Steve Jobs, Jeff Bezos, Tom Cruise, Tom Hanks ฯลฯ) เป็นต้น
6. ในขณะรวบรวมชื่อที่หลากหลาย ชื่อที่คิดว่าชอบ ควรจินตนาการถึงเมื่อลูกโตเป็นผู้ใหญ่ ที่ต้องเข้าสังคม ต้องพบปะผู้คน ชื่อที่น่าเรียก น่าภูมิใจ ในการแนะนำตัวเองสำหรับลูก ควรจะเป็นชื่ออะไรดี เมื่อนึกถึงประเด็นนี้จะช่วยให้การตั้งชื่อลูกง่ายขึ้นมาก
7. ปัจจุบันคงไม่มีคุณพ่อคุณแม่คนไหนตั้งชื่อลูกชาย ลูกสาว ที่โบราณ อีกต่อไป อย่าลืมว่าชื่อเปลี่ยนไปตามสมัย ถ้าไม่อยากให้ลูกไม่ถูกใจชื่อในภายหลังเมื่อโตขึ้น ให้หลีกเลี่ยงชื่อเชยต่างๆ ที่ปัจจุบันไม่ค่อยตั้งกันแล้ว ตอนเด็กๆชื่อเหล่านี้อาจจะขำ น่ารักดี แต่โตมา ลูกคงไม่ขำไปกับเราแน่ๆ
8. ควรเตรียมตั้งชื่อสำรองไว้ อย่างน้อยประมาณ 5-10 ชื่อ (ถ้าทำได้) เผื่อเปลี่ยนใจในภายหลังในช่วงที่ลองใช้ชื่อเล่นๆ ในช่วง 3-4 วันแรก อย่าลืมว่า การตั้งชื่อลูกชายลูกสาวที่ดี จะช่วยการเข้าสังคมของลูกในอนาคตได้