สิ่งสำคัญที่ควรทราบ
นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เราสนับสนุนคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต จากนั้นเริ่มให้อาหารเสริมตามวัยที่ปลอดภัยอย่างเหมาะสมร่วมกับนมแม่จนครบ 2 ปี หรือนานกว่านั้น การได้รับโภชนาการที่ดีและสมดุลของมารดาในช่วงให้นมบุตรจึงมีความสำคัญยิ่ง ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องใช้นมผสม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนตัดสินใจ และควรปฏิบัติตามข้อแนะนำในการเตรียมและการใช้อย่างระมัดระวังเพื่อสุขภาพที่ดีของลูกรัก
โภชนาการที่ดีควบคู่กับการส่งเสริมพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย คือ รากฐานสำคัญสำหรับการเจริญเติบโตของลูกรัก ไฮ-แฟมิลี่คลับ พร้อมเคียงข้างคุณแม่ ด้วยข้อมูลด้านโภชนาการและพัฒนาการที่เป็นประโยชน์ เพื่อสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีของทั้งคุณแม่และลูกรัก
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่เพิ่งมีลูกน้อย อาจสังเกตเห็นว่าใบหน้าของลูกมีรอยด่างขาว หรือผิวบางจุดดูซีดลงกว่าปกติ โดยเฉพาะบริเวณแก้ม หน้าผาก หรือรอบปาก ไม่ต้องตกใจไปค่ะ เพราะอาการนี้อาจเป็น “เกลื้อนน้ำนม” ซึ่งพบได้บ่อยในเด็กอ่อน และโดยมากจะไม่เป็นอันตรายค่ะ มาดูกันว่า เกลื้อนน้ำนมคืออะไร รักษาอย่างไร และควรดูแลลูกน้อยแบบไหนถึงจะดีที่สุด
เกลื้อนน้ำนม (Pityriasis Alba) คือ โรคผิวหนังชนิด
ที่ไม่รุนแรง มักพบในเด็กเล็กหรือเด็กอ่อน ไปจนถึงวัยรุ่น
ลักษณะเป็นผื่นสีขาวขนาดเล็ก สีซีดอ่อน ๆ รูปร่างไม่แน่นอน
ผิวบริเวณผื่นอาจแห้งเล็กน้อยหรือมีขุยบาง ๆ พบบ่อยที่
บริเวณ ใบหน้า แก้ม หน้าผาก หรือรอบปาก และจะเห็น
ชัดเจนขึ้นหากผิวโดยรอบเริ่มคล้ำจากการถูกแสงแดด
ในช่วงระยะแรกอาจเป็นผื่นแดงเล็กน้อย มีอาการคันได้บ้าง
แล้วค่อยๆกลายเป็นด่างขาว
ปัจจุบันนี้ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดว่าเกิดจากอะไร
ในทางการแพทย์สันนิษฐานว่ามีความเกี่ยวข้องกับหลายปัจจัย
ได้แก่
- ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น
- การสัมผัสแสงแดดโดยตรง โดยไม่มีการปกป้อง
- การอักเสบของผิวเล็กน้อย เช่น จากการแพ้หรือระคายเคือง
- การใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมสำหรับผิวเด็ก ซึ่งเป็นผิวที่ค่อนข้างบอบบางและแพ้ง่าย
- พันธุกรรม เด็กที่มีภูมิแพ้ทางผิวหนังอาจเกิดได้ง่ายกว่าเด็กทั่วไป
- เป็นผื่นหรือ วงสีขาวซีด รูปร่าง กลม รี ไม่แน่นอน
- พื้นผิวมักแห้ง มีขุยเล็ก ๆ บาง ๆ
- มีอาการคันได้บ้างในระยะแรกแต่หลังจากนั้นจะไม่คัน ไม่เจ็บ
- พบได้บ่อยบริเวณแก้ม หน้าผาก รอบปาก หรือบางครั้งพบบริเวณหน้าอก แขน หรือแผ่นหลัง
โดยทั่วไปอาการจะไม่รุนแรง และมักหายได้เองภายในไม่กี่สัปดาห์
ไม่อันตราย ไม่ติดต่อและไม่ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของลูก
จึงไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด
อาการมักหายได้เองภายในไม่กี่สัปดาห์ โดยเฉพาะเด็กที่มีภูมิต้านทานที่ดี
จะหายเร็ว สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ คุณพ่อคุณแม่
ไม่ต้องกังวลนะคะ ขอแค่ดูแลผิวลูกให้มีความชุ่มชื้น
แต่หากกังวลหรือผื่นไม่หายสักที ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง
เพื่อประเมินและวินิจฉัยให้แน่ชัดค่ะ
ส่วนใหญ่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ยา เพราะอาการจะค่อย ๆ หายไปเอง
แต่สามารถดูแลให้ผิวลูกให้ฟื้นตัวเร็วขึ้นด้วยวิธีง่ายๆดังนี้
- ทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำ : เลือกครีมหรือโลชั่นสำหรับเด็กโดยเฉพาะ
ที่มีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น เช่น เซราไมด์ หรือสารสกัดธรรมชาติอ่อนโยน
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสแดดโดยตรง : หากต้องออกนอกบ้าน
ควรใส่หมวกหรือใช้ร่มกันแดด ไม่ควรใช้ครีมกันแดดในเด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน
เว้นแต่แพทย์แนะนำ
- ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน เช่น สบู่เด็กสูตร pH-balanced
หรือสบู่เหลวสูตรไม่ผสมน้ำหอมหรือสารเคมีรุนแรง
- งดการขัด ถู หรือเกาผิวแรง ๆ เพราะจะยิ่งทำให้ผิวอักเสบและรอยขาวชัดขึ้น
- บางกรณี แพทย์อาจพิจารณาให้ยาทา เช่นสเตียรอยด์อ่อนๆทาในระยะ
เวลาที่เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงจากสเตียรอยด์
- ทาครีมบำรุงผิวให้ลูกทุกวัน โดยเฉพาะหลังอาบน้ำ
- ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสูตรอ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด หาอุปกรณ์ป้องกันแสงแดดหากต้องออกนอกบ้าน
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นจัด และไม่ควรอาบน้ำให้ลูกนานเกินไป เพราะทำให้ผิวแห้ง
- เมื่อมีการใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ควรสังเกตใกล้ชิดหากมีผื่นควรหยุดใช้ทันที
บริการให้คำปรึกษาในทุกๆเรื่องที่คุณแม่กังวลใจ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล นักโภชนาการและคุณแม่ ที่พร้อมอยู่เคียงข้าง ตลอด 24 ชั่วโมง