สิ่งสำคัญที่ควรทราบ
นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เราสนับสนุนคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต จากนั้นเริ่มให้อาหารเสริมตามวัยที่ปลอดภัยอย่างเหมาะสมร่วมกับนมแม่จนครบ 2 ปี หรือนานกว่านั้น การได้รับโภชนาการที่ดีและสมดุลของมารดาในช่วงให้นมบุตรจึงมีความสำคัญยิ่ง ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องใช้นมผสม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนตัดสินใจ และควรปฏิบัติตามข้อแนะนำในการเตรียมและการใช้อย่างระมัดระวังเพื่อสุขภาพที่ดีของลูกรัก
โภชนาการที่ดีควบคู่กับการส่งเสริมพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย คือ รากฐานสำคัญสำหรับการเจริญเติบโตของลูกรัก ไฮ-แฟมิลี่คลับ พร้อมเคียงข้างคุณแม่ ด้วยข้อมูลด้านโภชนาการและพัฒนาการที่เป็นประโยชน์ เพื่อสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีของทั้งคุณแม่และลูกรัก
อยู่ดี ๆ ลูกก็ตัวร้อนแบบไม่ทันตั้งตัว เล่นเอาคุณพ่อคุณแม่ตกใจทำอะไรไม่ถูก ! จะเป็นไข้หรือเปล่า ? ต้องรีบพาไปหาหมอไหม ? หรือแค่พักผ่อนก็พอ ? ซึ่งอาการดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และบางครั้งก็อาจไม่ได้น่ากังวลอย่างที่คิด แต่การรู้ทันถึงสาเหตุและวิธีรับมือที่ถูกต้อง จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลลูกน้อยได้อย่างมั่นใจมากขึ้นค่ะ
ตรวจสอบบทความโดย: รุ่งทิวา สุลักษณานนท์
พยาบาลศาสตรบัณฑิต การพยาบาลและการผดุงครรภ์
การที่จู่ ๆ ลูกน้อยเกิดอาการตัวร้อนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่มีอาการนำมาก่อน อาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยเหล่านี้ค่ะ
- ติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย: เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่ระบบภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่เต็มที่
- หลังการฉีดวัคซีน: เด็กบางคนอาจมีอาการตัวร้อนเล็กน้อยถึงปานกลางหลังจากการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นผลข้างเคียงปกติที่ร่างกายกำลังสร้างภูมิคุ้มกัน
- การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิร่างกาย: ในบางครั้ง การที่เด็กวิ่งเล่นหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนอบอ้าวเป็นเวลานาน อาจทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้นได้ชั่วคราว
- ฟันขึ้น: ในเด็กเล็กวัยฟันขึ้น อาจมีอาการตัวรุม ๆ หรือมีไข้ต่ำ ๆ ร่วมด้วยได้
- ภาวะขาดน้ำ: หากลูกน้อยดื่มน้ำไม่เพียงพอ ร่างกายอาจมีอุณหภูมิสูงขึ้นได้
หากอยู่ดี ๆ ลูกก็ตัวร้อน แต่ยังเล่นได้ กินได้ นอนหลับได้ตามปกติ โดยไม่มีอาการอื่น เช่น ไอ จาม อาเจียน ก็อาจเป็นเพียงไข้จากการเปลี่ยนแปลงของร่างกายชั่วคราว สามารถดูอาการ 1-2 วันอย่างใกล้ชิดร่วมกับกระตุ้นให้ลูกดื่มน้ำมากๆ เพื่อระบายความร้อนในร่างกาย อย่างไรก็ตาม หากอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ซึมลง อาเจียน ผื่นขึ้น หรือหายใจหอบเหนื่อย ร่วมด้วย ควรรีบปรึกษาแพทย์ค่ะ
สัญญาณอันตรายที่ควรพาลูกไปพบแพทย์โดยเร็วได้แก่
- มีไข้สูงกว่า 38.5 องศาเซลเซียส
- ตัวร้อนเกิน 2 วันติดต่อกัน
- ซึม ไม่ยอมกินนมหรืออาหาร
- ร้องกวนโยเยผิดปกติ
- มีผื่นขึ้นตามตัว
- หายใจหอบเหนื่อย หายใจลำบาก หรือมีเสียงหวีด
- อาเจียน ทานอาหารไม่ได้
- หายใจเร็วผิดปกติ หรือชัก
- มีอาการขาดน้ำ เช่น ปัสสาวะมีสีเข้ม ปริมาณน้อยลง ปากแห้ง ขอบตาคล้ำ
ไม่ควรให้ยาลดไข้ทันที หากมีอาการตัวร้อนเพียงอย่างเดียว ควรเช็ดตัวด้วยน้ำอุณหภูมิห้องก่อน รวมถึงให้ลูกดื่มน้ำมากขึ้น วัดไข้ และสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง หากยังมีไข้สูง ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอลในขนาดที่เหมาะสมกับน้ำหนักตัว อย่างไรก็ตาม ห้ามให้ยาแอสไพรินในเด็ก(ยาลดไข้สูง) เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงร้ายแรง
- ให้ดื่มน้ำบ่อย ๆ เพื่อป้องกันร่างกายขาดน้ำ
- เช็ดตัวด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นบิดหมาด ๆ
- ไม่ควรห่มผ้าหนา ควรใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
- ให้พักผ่อนมาก ๆ หลีกเลี่ยงการเล่นที่ต้องใช้แรงมากๆ
- สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากไม่ดีขึ้น หรือมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วยตามที่กล่าวมา ควรรีบพาไปพบแพทย์
การสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด ทำได้โดยให้ลูกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ควรพาลูกไปรับวัคซีนตามกำหนด หมั่นล้างมือให้สะอาด หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในที่แออัด ช่วงที่มีโรคระบาด และการอยู่ใกล้ชิดกับคนป่วย
A : ลูกตัวร้อนมาก (วัดไข้ได้ 39 องศาเซลเซียสขึ้นไป) ร่วมกับอาการซึม ชัก อาเจียนพุ่ง หายใจลำบาก หรือมีผื่นขึ้น เหล่านี้เป็นสัญญาณอันตราย ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที
A : อาจเกิดจากการอยู่ในที่ร้อนเกินไป การสวมเสื้อผ้าหนาเกินไป การออกกำลังกาย หรือเล่นกลางแดด ซึ่งทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นชั่วคราว
A : ห่มผ้าบางๆได้ และเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี รวมทั้งอยู่ในห้องที่อุณหภูมิเหมาะสม
อยู่ดี ๆ ลูกก็ตัวร้อน ซึ่งเป็นอาการที่อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ตกใจ ขอเพียงสังเกตอาการและดูแลลูกอย่างใกล้ชิดก็ช่วยให้ลูกปลอดภัยได้ หากอาการไม่ดีขึ้น ควรพาไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอย่างถูกต้อง เป็นกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ที่ต้องรู้เท่าทัน เพื่อพร้อมรับมือในทุกๆสถานการณ์นะคะ
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์
ภาพจาก Freepik
M25-084
บริการให้คำปรึกษาในทุกๆเรื่องที่คุณแม่กังวลใจ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล นักโภชนาการและคุณแม่ ที่พร้อมอยู่เคียงข้าง ตลอด 24 ชั่วโมง