นมแม่ดีที่สุด

เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้คุณเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะเราเชื่อว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทารก ทั้งยังให้ประโยชน์กับทารกในหลายด้าน การเตรียมตัวช่วงก่อนและระหว่างการให้นมทารกนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง คุณควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในสัดส่วนที่สมดุล

เมื่อคุณตัดสินใจที่จะไม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หรือเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ร่วมกับการใช้นมสูตรสำหรับทารก อาจลดประสิทธิภาพในการสร้างน้ำนมของคุณเองและทำให้การกลับมาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อีกครั้งทำได้ยากขึ้น ดังนั้นก่อนเริ่มใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรคำนึงถึงผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคมร่วมด้วย หากจำเป็นต้องใช้นมสูตรสำหรับทารก คุณควรปฏิบัติตามข้อแนะนำในการเตรียม การใช้ และการเก็บรักษา อย่างระมัดระวังเพื่อสุขภาพที่ดีของทารก

เพื่อช่วยในการตัดสินใจที่ดีที่สุดเกี่ยวกับวิธีให้อาหารทารก แนะนำปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทุกครั้ง

ท้องนอกมดลูกคืออะไร? อันตรายแค่ไหน รักษาได้หรือไม่

เลือกอ่านตามหัวข้อที่ต้องการ

ภาวะท้องนอกมดลูกคืออะไร

อาการเตือนของการตั้งครรภ์นอกมดลูก

สาเหตุของภาวะท้องนอกมดลูก

การรักษาภาวะท้องนอกมดลูก

ภาวะแทรกซ้อนที่ควรระวัง

ท้องนอกมดลูกป้องกันได้หรือไม่

โอกาสตั้งครรภ์หลังจากท้องนอกมดลูก

คำถามที่พบบ่อย

 

ภาวะท้องนอกมดลูกคืออะไร

ท้องนอกมดลูก (Ectopic Pregnancy) เป็นภาวะที่ไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิแล้วฝังตัวนอกโพรงมดลูก โดยส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในท่อนำไข่ ซึ่งพบได้ 1-2% ของการตั้งครรภ์ทั้งหมด แต่สามารถเกิดขึ้นที่อวัยวะอื่นได้ เช่น รังไข่ หรือในช่องท้อง ภาวะนี้ไม่สามารถพัฒนาไปเป็นการตั้งครรภ์ปกติได้ และหากไม่ได้รับการรักษา อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายถึงชีวิต

 

อาการเตือนของการตั้งครรภ์นอกมดลูก

อาการของภาวะท้องนอกมดลูกอาจคล้ายกับการตั้งครรภ์ปกติในระยะแรก แต่จะมีอาการเพิ่มเติม ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์ทันที เช่น

  • ปวดท้องเฉียบพลัน โดยเฉพาะบริเวณท้องน้อย หรือมีอาการปวดบริเวณอุ้งเชิงกราน
  • มีภาวะตกเลือด หรือเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ
  • วิงเวียนศีรษะ หน้ามืดรุนแรง หรือเป็นลม
  • ปวดไหล่ ลำคอ หรือทวารหนัก ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของภาวะเลือดออกในช่องท้อง

 

สาเหตุของภาวะท้องนอกมดลูก

ภาวะท้องนอกมดลูกมักเกิดขึ้นในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ เมื่อไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิไม่สามารถเคลื่อนเข้าไปฝังตัวในโพรงมดลูกได้ตามปกติ แต่กลับฝังตัวผิดตำแหน่ง เช่น ท่อนำไข่ รังไข่ ปากมดลูก หรือช่องท้อง ซึ่งอาจเกิดจากหลายปัจจัย ดังนี้

  1. ความผิดปกติของท่อนำไข่
    • การอักเสบหรือติดเชื้อ เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรืออุ้งเชิงกรานอักเสบ (PID)
    • ท่อนำไข่ตีบหรือเสียหาย จากการผ่าตัด เคยท้องนอกมดลูกมาก่อน หรือมีพังผืด
    • ความผิดปกติของโครงสร้างท่อนำไข่ ซึ่งอาจเกิดขึ้นโดยกำเนิด
  2. ความไม่สมดุลของฮอร์โมน
    • การใช้ ยาคุมกำเนิดแบบห่วงอนามัย ยาคุมฉุกเฉิน อาจส่งผลต่อการเคลื่อนตัวของไข่
    • ระบบฮอร์โมนไม่สมดุล ส่งผลให้ไข่เคลื่อนตัวผิดปกติ
  3. ปัจจัยเสี่ยงด้านพฤติกรรมและอายุ
    • การสูบบุหรี่ มีผลต่อการทำงานของท่อนำไข่
    • อายุมากกว่า 35 ปี ระบบสืบพันธุ์อาจทำงานได้ไม่เต็มที่ ส่งผลต่อการฝังตัวของไข่
  4. เคยมีประวัติหรือการรักษาที่เกี่ยวข้อง
    • เคยตั้งครรภ์นอกมดลูกมาก่อน มีโอกาสเกิดซ้ำ 10-15%
    • เคยผ่าตัดในช่องท้อง เช่น ผ่าตัดไส้ติ่ง หรือเนื้องอกมดลูก
    • การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) หรือเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์
  5. ภาวะทางการแพทย์อื่น ๆ
    • ภาวะมีบุตรยาก
    • การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของมดลูกและท่อนำไข่

 

การรักษาภาวะท้องนอกมดลูก

เมื่อพบการตั้งครรภ์นอกมดลูก แพทย์จะต้องยุติการตั้งครรภ์ทันทีเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดอันตรายถึงชีวิต

การใช้ยาเมโธเทรกเซท (Methotrexate)
ยาเมโธเทรกเซทเหมาะสำหรับบางกรณี เช่น hCG ต่ำและท่อนำไข่ยังไม่แตก ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยานี้ โดยมีอัตราความสำเร็จ 95% หลังฉีดยาผู้ป่วยอาจมีอาการปวดท้อง ซึ่งสามารถบรรเทาด้วยยาพาราเซตามอล แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้อักเสบ เช่น ไอบูโพรเฟนร่วมกับยาเมโธเทรกเซท เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียง แพทย์จะตรวจระดับ hCG จนกว่าจะไม่พบ หรืออาจต้องฉีดยาซ้ำ

การผ่าตัด
การท้องนอกมดลูกส่วนใหญ่รักษาด้วยการผ่าตัด หากท่อนำไข่อีกข้างปกติ แพทย์จะใช้วิธีผ่าเปิดหน้าท้องเหมือนกับการผ่าคลอด โดยตัดท่อนำไข่ออกไปด้วย เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ แต่ถ้าท่อนำไข่อีกข้าง(ที่เหลือ)ไม่ค่อยสมบูรณ์ และคนไข้ยังต้องการมีบุตร แม้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคซ้ำ แพทย์จะเลือกผ่าตัดเอาเฉพาะส่วนที่มีการตั้งครรภ์ออกแล้วเก็บท่อนำไข่ไว้

หากท่อนำไข่ฉีกขาดหรือผู้ป่วยไม่สามารถมาพบแพทย์หลังการใช้ยาเมโธเทรกเซท แพทย์จะทำการผ่าตัดผ่านหน้าท้องหรือส่องกล้องเพื่อนำตัวอ่อนออกและซ่อมแซมท่อนำไข่ บางกรณีอาจต้องตัดท่อนำไข่ออก หากมีความเสียหายหรือเลือดออกมาก หลังการผ่าตัดแพทย์อาจให้ฉีดยาเมโธเทรกเซทเพิ่มเติม

 

ภาวะแทรกซ้อนที่ควรระวัง

  • ท่อนำไข่แตกและเลือดออกในช่องท้อง: การเจริญเติบโตของตัวอ่อนในท่อนำไข่อาจทำให้ท่อนำไข่ฉีกขาด ส่งผลให้มีเลือดออกในช่องท้องอย่างรุนแรง ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึง
  • ภาวะช็อกจากการเสียเลือด: การเสียเลือดปริมาณมากอาจทำให้ผู้ป่วยเกิดภาวะช็อก ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องได้รับการรักษาโดยด่วน ​
  • ภาวะมีบุตรยาก: ความเสียหายต่อท่อนำไข่อาจลดโอกาสในการตั้งครรภ์ในอนาคต

 

ท้องนอกมดลูกป้องกันได้หรือไม่

แม้ไม่สามารถป้องกันได้ 100% แต่สามารถลดความเสี่ยงได้โดย

  • มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ
  • หมั่นตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ และสังเกตความผิดปกติของร่างกายเป็นประจำ
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพของท่อนำไข่

 

โอกาสตั้งครรภ์หลังจากท้องนอกมดลูก

หลังจากท้องนอกมดลูก โอกาสตั้งครรภ์อีกครั้งยังคงมี แต่ขึ้นอยู่กับสุขภาพของมดลูกและท่อนำไข่ ผู้ที่มีประวัติภาวะนี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์

 

คำถามที่พบบ่อย

จะรู้ได้ยังไงว่าท้องนอกมดลูก

หากมีอาการปวดท้องผิดปกติ เลือดออกทางช่องคลอด และรู้สึกเวียนหัวรุนแรง หน้ามืดเป็นลม ควรพบแพทย์เพื่อทำอัลตราซาวด์และตรวจเลือดเพื่อวินิจฉัย

ท้องนอกมดลูกขึ้น 2 ขีดไหม

การท้องนอกมดลูกสามารถทำให้ผลการทดสอบการตั้งครรภ์เป็นบวกได้ (ขึ้น 2 ขีด) เพราะร่างกายยังคงผลิตฮอร์โมน hCG ในระหว่างการตั้งครรภ์ แต่ระดับฮอร์โมนอาจสูงขึ้นไม่ปกติหรือเพิ่มขึ้นช้ากว่าในกรณีของการตั้งครรภ์ที่มดลูก ซึ่งจะทำให้ผลทดสอบเป็นบวก แต่ไม่พบถุงการตั้งครรภ์ในมดลูกเมื่อทำการอัลตราซาวด์

หากสงสัยว่ามีภาวะท้องนอกมดลูก ควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น ตรวจระดับ hCG และทำการอัลตราซาวด์เพื่อยืนยันผล

ท้องนอกมดลูกมีโอกาสเกิดขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์

โดยทั่วไป ท้องนอกมดลูกเกิดขึ้นประมาณ 1-2% ของการตั้งครรภ์ทั้งหมด แต่มีโอกาสสูงขึ้นหากมีปัจจัยเสี่ยงบางอย่าง เช่น

  • เคยมีประวัติการตั้งครรภ์นอกมดลูกมาก่อน
  • เคยผ่าตัดช่องท้อง/ อุ้งเชิงกราน / ท่อนำไข่มาก่อน
  • คุณแม่ตั้งครรภ์เมื่อมีอายุตั้งแต่ 35 ปี ขึ้นไป เป็นต้น

ท้องนอกมดลูกต้องทำยังไง

หากตรวจพบว่าท้องนอกมดลูก แพทย์จะเลือกวิธีการรักษาตามความรุนแรงของภาวะนั้น ๆ

  • การใช้ยา Methotrexate เพื่อยุติการตั้งครรภ์ในระยะแรก
  • การผ่าตัดผ่านกล้องเพื่อนำตัวอ่อนออก
  • การผ่าตัดเปิดหน้าท้องในกรณีที่มีภาวะฉุกเฉิน

อ้างอิงจาก

https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK539860/
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, การตั้งครรภ์นอกมดลูก
โรงพยาบาลเพชรเวช, ท้องนอกมดลูก ภาวะที่คุณแม่มือใหม่ไม่ควรเพิกเฉย
โรงพยาบาลแมคคอร์มิค, การตั้งครรภ์นอกมดลูก
การตั้งครรภ์นอกมดลูก - คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
หมอชาวบ้าน, ท้องนอกมดลูก
โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต, สัญญาณเตือน ของการตั้งครรภ์นอกมดลูก
ภาพจาก Freepik

M25-026

 

carelinepic_resized2

ไฮ-แฟมิลี่ แคร์ไลน์

บริการให้คำปรึกษาในทุกๆเรื่องที่คุณแม่กังวลใจ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล นักโภชนาการและคุณแม่ ที่พร้อมอยู่เคียงข้าง ตลอด 24 ชั่วโมง

x